ภาวะติดเชื้อที่สมองจากโปรตีนพรีออนในเนื้อวัว ทำลายเนื้อเยื่อสมอง ควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้ เคลื่อนไหวผิดปกติ กล้ามเนื้อกระตุก เห็นภาพหลอน ความจำเสื่อม เสียชีวิตได้โรควัวบ้า สารพรีออน โรคติดต่อ โรคติดเชื้อ

โรควัวบ้า ( bovine spongiform encephalopathy ) คือ ภาวะการติดเชื้อโรคที่สมอง โดยมีเนื้อวัวเป็นพาหะนำโรค ซึ่งการรับประทานเนื้อวัวที่มีเชื้อโรค ทำให้เกิดความผิดปรกติของสมอง จัดเป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่งที่ระบาดจากวัวสู่คนได้

โปรตีนพรีออน คือ ต้นเหตุของโรควัวบ้า เป็นสารที่อยู่ในเนื้อวัว ซึ่งสารพรีออนมีคุณสมบัติเป็นโปรตีน แบบไม่ละลายน้ำ มีหน้าที่กระตุ้นเซลล์ให้สร้างสารพรีออนเพิ่มขึ้นและไปขัดขวางกระบวนการสร้างตัวของโปรตีนอื่นๆในร่างกาย เมื่อสารพรีออนอยู่ในร่างกายสิ่งมีชีวิตจะทำลายเนื้อเยื่อสมอง ทำให้สมองฝ่อ

สถานการณ์โรควัวบ้า

พบรายงานการตรวจพบโรควัวบ้าครั้งแรกในประเทศอังกฤษ ปี พ.ศ. 2529 โดยพบวัวในประเทศอังกฤษมีเชื้อวัวบ้าจำนวนมาก ต่อมาเกิดการระบาดในอีกหลายประเทศแถบยุโรป ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ โปรตุเกส ฝรั่งเศส เดนมาร์ก เยอรมัน อิตาลี เบลเยี่ยม ลักเซมเบอร์ก ออสเตรีย สเปน สาธารณรัฐเช็ค ฟินแลนด์ กรีซ โปแลนด์ สโลวาเกีย สโลเวเนีย และลิชเทนสไตน์ รวมทั้งในประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น โอมาน อิสราเอล และหมู่เกาะฟอร์คแลนด์ จากสถานการณ์ในเวลานั้นต้องทำลายวัวมากถึง 4 ล้านตัว และต้องใช้มาตรการควบคุมในการกำจัดอย่างเข้มงวด เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

สำหรับประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่อในการเกิดโรควัวบ้า เนื่องจากได้เคยมีการนำเข้าเนื้อและกระดูกป่นในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ถึงแม้ว่าจะมีการออกกฎระเบียบต่างๆในการห้ามนำเข้าและป้องกันการใช้เนื้อและกระดูกป่นจากประเทศที่มีรายงานโรค

สาเหตุของการเกิดโรควัวบ้า

สำหรับสาเหตุการเกิดโรควัวบ้ามาจากความผิดปกติของโปรตีนในเนื้อวัว ชื่อ พรีออน ( Prion ) ซึ่งโปรตีนชนิดนี้จะทำลายโปรตีนชนิดอื่นๆที่จำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต และจะทำลายเนื้อเยื่อระบบประสาทและสมอง แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนของความผิดปกตินี้ ซึ่งหากคนรัประทานเนื้อที่มีความผิดปรกติของโปรตีนจะทำให้ระบบประสาทและสมองถูกทำลาย มีการศึกษาโปรตีนพรีออน พบว่าโปรตีนพรีออน ทนต่อการทำลายต่างๆแม้กระทั้งความร้อนสูง

กลุ่มเสี่ยงการเกิดโรควัวบ้า

สำหรับโรควัวบ้า กลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดโรควัวบ้า คือ กลุ่มคนที่ชอบรับประทานเนื้อวัว ถึงแม้ว่าปรุงเนื้อวัวให้สุก ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อต่างๆแล้วก็ไม่สามารถทำให้สารพรีออนให้หมดไปได้ เนื่องจากสารพรีออนทนความร้อนได้ การควบคุมการเกิดโรควัวบ้าในวัวจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อสวัสดิภาพของมนุษย์

อาการของโรควัวบ้า

ลักษณะของสัตว์ที่เป็นโรควัวบ้าจะมีพฤติกรรมที่ผิดปรกติมีปัญหาการเดิน มีพฤติกรรมที่รุนแรง น้ำหนักตัวลดลง และล้มตายในเวลาต่อมา การรับประทานเนื้อวัวที่มีเชื้อวัวบ้า หรือ มีโปรตีนพรีออน จะส่งผลต่อร่างกายโดยเฉพาะระบบประสาทและสมอง โดยลักษณะอาการของโรควัวบ้า มีดังนี้

  • การควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้ การเคลื่อนไหวผิดปกติ กล้ามเนื้อกระตุก
  • ลักษณะพฤติกรรมและบุคลิกภาพเปลี่ยนไป
  • ระบบสายตาผิดปรกติ เช่น มองเห็นภาพผิดปกติ เห็นภาพหลอน สายตาพร่ามัว หรือ ตาบอด
  • ระบบการรับรู้ความรู้สึกผิดปกติ
  • พูดได้ลำบาก
  • กลืนอาหารลำบาก
  • มีภาวะเครียด
  • นอนไม่หลับ
  • ความจำเสื่อม
  • อาจเสียชีวิตภายในเวลาประมาณ 13 เดือนหลังจากร่างกายมีอาการผิดปรกติ

การวินิจฉัยโรควัวบ้า

สำหรับแนวทางการวินิจฉัยโรควัวบ้า แพทย์จะวินิจฉัยจากประวัติ อาการต่างๆ ตรวจน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง เพื่อตรวจหาโปรตีนที่อาจทำให้เกิดโรค

การรักษาโรควัวบ้า

สำหรับแนวทางการรักษาโรควัวบ้า ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรควัวบ้าโดยตรง ซึ่งการรักษาเพียงบรรเทาอาการของโรค ที่สำคัญ คือ การกักกันสาหตุของการเกิดโรคไม่ให้เกิดการระบาดเพิ่ม ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบันถือว่าประเทศไทยยังปลอดภัยต่อการระบาดของโรควัวบ้า

การป้องกันโรควัวบ้า

เนื่องจากในปัจจุบันจะยังไม่มียาสามารถรักษาผู้ติดเชื้อวัวบ้าได้ การป้องกันจึงมีความสำคัญที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรค ซึ่งแนวทางการป้องกันโรควัวบ้า มีดังนี้

  • ระมัดระวังในการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีความเสี่ยงเป็นโรควัวบ้า
  • หากมีโรควัวบ้าระบาดในประเทศที่อาศัยอยู่ ให้ปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด เช่น ห้ามนำเข้าวัวหรือสัตว์อื่น ๆ ที่ติดเชื้อโรควัวบ้า ห้ามเลี้ยงสัตว์ที่อาจเสี่ยงติดเชื้อโรควัวบ้า ห้ามใช้วัตถุดิบที่อาจเสี่ยงติดเชื้อโรควัวบ้าในการประกอบอาหาร เพิ่มความเข้มงวดในกระบวนการจัดการกับสัตว์ที่ป่วย เฝ้าระวังและตรวจสอบเพื่อติดตามสุขภาพของวัว

โรควัวบ้า ภาวะการติดเชื้อที่สมองจากเนื้อวัวที่มีโปรตีนพรีออน ทำลายเนื้อเยื่อสมอง ทำให้สมองฝ่อ อาการของโรคควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้ การเคลื่อนไหวผิดปกติ กล้ามเนื้อกระตุก เห็นภาพหลอน ความจำเสื่อม และ ตายใน 13 เดือน

สับปะรด ผลไม้แสนอร่อย พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ลักษณะของต้นสับปะรด สรรพคุณของสับปะรด เช่น ช่วยขับปัสสาวะ ขับนิ่ว รักษาแผลหนอง ลดการอักเสบ โทษของสับปะรดสับปะรด สมุนไพร ผลไม้ สรรพคุณของสับปะรด

ต้นสับปะรด ภาษาอังกฤษ เรียก Pineapple ชื่อวิทยาศาสตร์ของสับปะรด คือ Ananas comosus (L.) Merr. สำหรับชื่อเรียกอื่นๆของสับปะรด เรียก มะนัด มะขะนัด บ่อนัด บักนัด ย่านัด ขนุนทอง เป็นต้น สับปะรด จัดเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพมีประโยชน์หลากหลาย เนื่องจากมีแร่ธาตุที่สำคัญหลายชนิด เช่น คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามินบี กรดโฟลิก ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุแมงกานีส ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี เป็นต้น

ต้นสับปะรด เป็นพืชในเขตร้อน โดยแหล่งกำเนิดของสับปะรดมาจากทวีปอเมริกาใต้ สำหรับประเทศไทยมีการปลูกสับปะรดเป็นพืชเศรษฐกิจ จำหน่ายผลเป็นอาหาร โดยแหล่งปลูกสับปะรดที่สำคัญของประเทศไทย คือ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี อุตรดิตถ์ ลำปาง พิษณุโลก เป็นต้น

สับปะรดในประเทศไทย

ผลสับปะรด มีรสชาติิอร่อย นิยมรับประทานเป็นของว่าง ซึ่งสับปะรดเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย เป็นพืชที่นิยมบรรจุกระป๋อง แหล่งปลูกสับปะรดที่สำคัญของประเทศไทย เช่น ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ตราด ภูเก็ต พังงา ชุมพร และ จังหวัดริมแม่น้ำโขง ซึ่งสายพันธ์สับปะรดที่นิยมปลูกในประเทศไทย มี 5 สายพันธ์ คือ สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย สับปะรดพันธุ์อินทรชิต สับปะรดพันธุ์ขาว สับปะรดพันธุ์ภูเก็ตและ สับปะรดพันธุ์น้ำผึ้ง

ลักษณะของต้นสับปะรด

ต้นสับปะรด เป็นพืชล้มลุกใบเลี้ยงเดี่ยว ทนสภาพอากาศร้อนและความแห้งแล้งได้ดี ซึ่งการขยายพันธ์สับปะรด สามารถขยายพันธ์โดยการปักชำ และ แยกหน่อ ลักษณะของสับปะรด มีดังนี้

  • ลำต้นสับปะรด จะอยู่ใต้ดิน ไม่แตกกิ่งก้าน มีแต่กาบใบห่อหุ้มลำต้น
  • ใบของสับปะรด เป็นใบเดี่ยว ไม่มีก้านใบ โคนใบเป็นกาบหุ้มที่ลำต้น ปลายของใบแหลมและขอบใบมีหนาม
  • ผลของสับปะรด ลักษณะกลมรี ภายในมีน้ำฉ่ำ รสชาติแล้วแต่พันธุ์ เช่น รสหวานอมเปรี้ยว รสเปรี้ยว รสหวาน
  • ดอกสับปะรด ลักษณะดอกสับปะรดเป็นช่อ จะแทงออกมาจากกลางลำต้น และมีดอกย่อยจำนวนมาก

คุณค่าทางโภชนาการของสับปะรด

สำหรับการบริโภคสับปะรดเป็นอาหาร นิยมรับประทานผลสุกของสับปะรด ซึ่งนักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของสับปะรด ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงานมากถึง 50 กิโลแคลอรี และมีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 13.12 กรัม น้ำตาล 9.85 กรัม กากใยอาหาร 1.4 กรัม ไขมัน 0.12 กรัม โปรตีน 0.54 กรัม วิตามินบี1 0.079 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.032 มิลลิกรัม วิตามินบี3 0.5 มิลลิกรัม วิตามินบี5 0.213 มิลลิกรัม วิตามินบี6 0.112 มิลลิกรัม วิตามินบี9 18 ไมโครกรัม โคลีน 5.5 มิลลิกรัม วิตามินซี 47.8 มิลลิกรัม ธาตุแคลเซียม 13 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.29 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม ธาตุแมงกานีส 0.927 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 8 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 109 มิลลิกรัม ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม และธาตุสังกะสี 0.12 มิลลิกรัม

สรรพคุณของสับปะรด

การใช้สับประรดในด้านการรักษาโรค และ การบำรุงร่างกาย สามารถใช้ประโยชน์ได้จากทุกส่วนของสับปะรด ตั้งแต่ ราก ใบ และ ผล สรรพคุณของสับปะรด มีรายละเอียด ดังนี้

  • ผลสับปะรด(สุก) สรรพคุณช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย แก้กระหาย แก้ท้องผูก ช่วยย่อยอาหา ช่วยขับเสมหะ ช่วยขับปัสสาวะ ขับนิ่ว บำรุงไต ช่วยรักษาแผลเป็นหนอง แก้ส้นเท้าแตก ช่วยลดการอักเสบ ช่วยรักษาไตอักเสบ รักษาโรคความดันโลหิตสูง ช่วยรักษาหวัด ช่วยบำรุงเลือด ช่วยให้การไหลเวียนเลือดได้ดี บำรุงเหงือก ช่วยให้สุขภาพช่องปากแข็งแรง รักษาโรคหลอดลมอักเสบ แก้ปวดท้อง รักษาโรคบิด ช่วยลดอาการบวมน้ำ  ช่วยโรคผิวหนัง
  • ผลสับปะรด(ดิบ) สรรพคุณช่วยห้ามเลือด ช่วยขับประจำเดือน
  • ใบสับปะรด สรรพคุณช่วยฆ่าพยาธิ
  • รากสับปะรด สรรพคุณบำรุงไต แก้กระษัย
  • หนามของสับปะรด สรรพคุณช่วยแก้พิษฝี

โทษของสับประรด

การรับประทานสับปะรเ มีทั้งประโยชน์และโทษ ต้องรับประทานอย่างถูกต้องและในปริมาณที่เหมาะสมจึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด โทษของสับปะรด มีรายละเอียด ดังนี้

  • การรับประทานผลสับปะรดดิบ ทำให้ช่วยขับประจำเดือน สำหรับสตรีมีครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผลสับปะรดดิบ
  • ผลสับปะรด มีความเป็นกรดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยอาหาร แต่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองช่องปาก ริมฝีปาก และ ลิ้นได้
  • สับปะรดมีความเป็นกรด และ มีเอนไซม์บรอมมีเลน ซึ่งทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารได้ จึงไม่ควรรับประทานสับปะรดในเวลาท้องว่าง
ถุงกระสอบ ถุงล้อลาก ถุงสายรุ้ง ถุงการ์ตูน
ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove

สมุนไพรน่ารู้

คนทั่วไปมักเข้าใจว่าสมุนไพร คือ พืชที่สามารถนำมาทำเป็นยาเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว สมุนไพรนั้นหมายรวมถึง สัตว์ หรือ แร่ธาตุจากธรรมชาติด้วย เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่สามารถใช้รักษาโรคและบำรุงร่างกาย เพื่อประโยชน์กับทุกคน
ดอกคำฝอย สมุนไพร สรรพคุณของคำฝอย
ดอกคำฝอย
ว่านชักมดลูก สมุนไพร
ว่านชักมดลูก
โด่ไม่รู้ล้ม สมุนไพร สรรพคุณของโด่ไม่รู้ล้ม
ว่านโด่ไม่รู้ล้ม
หมามุ่ย สมุนไพร สรรพคุณหมามุ่ย
หมามุ่ย