โลน สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอาศัยบนขน กินเลือดมนุษย์ ทำให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง คันตามขนต่างๆ เช่น ขนหน่า ขนรักแร้ คิ้ว หนังศรีษะ ตุ่มบวมแดงคัน เกิดแผลอักเสบ
โลน ติดเชื้อโลน โรคติดเชื้อ
ตัวโลน
Pthirus pubis ) คือ สิ่งมีชีวิตเล็กๆที่ชอบอาศัยอยู่ที่บริเวณขนหยาบ เช่น ขนที่หัวเหน่า ขนรักแร้ เป็นต้น ตัวโลนมีขนาดประมาณ 2 มม. สีเหลืองเทา รูปร่างคล้ายปู มักจะวางไข่บนขน ซึ่งสามารถมองเห็นเป็นเม็ดๆสีน้ำตาลกระจัดกระจาย โลนจะมีวงจรชีวิตคล้ายตัวเหาแต่เป็นสิ่งมีชีวิตคนละกลุ่มกัน

การที่โลนอาศัยบนขนของมนุษย์ทำให้เกิดการติดเชื้อโลน และ สามารถแพร่กระจายสู่คนอื่นๆได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อโลน ไม่เกี่ยวกับความสกปรก หรือ การดูแลความสะอาดของร่างกายที่ไม่ดีพอ แต่เกิดจากการเจริญเติบโตของโลนบนขนของมนุษย์ ซึ่งชอบอยู่บริเวณขนหยาบ เช่น ขนที่หัวเหน่า ขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง ขนบริเวณท้อง ขนหน้าอก และเครา เป็นต้น ตัวโลนไม่สามารถกระโดดได้แต่มันจะค่อยๆ คืบคลานไปตามขนและพื้นผิว ดังนั้น การนอนเตียงเดียวกันคนที่มีตัวโลนอาศัยอยู่มีโอกาสการติดเชื้อโลนได้

ตัวโลนที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ มีทั้งหมด 3 ลักษณะ คือ ไข่โลน ตัวอ่อนโลน และ โลนตัวเต็มวัย รายละเอียดของลักษณะโลนในร่างกายมนุษย์ มีดังนี้

  • ไข่โลน ( Nit ) ลักษณะเล็กมากจนมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ไข่ของโลนมีสีขาว มักเกาะตามเส้นขน ซึ่งไข่โลนใช้เวลาในการฟักตัวประมาณ 6-10 วัน ก่อนจะเป็นตัวอ่อน
  • ตัวอ่อนโลน ( Nymph ) จะอาศัยอยู่ที่บริเวณอวัยวะเพศ โดยกินเลือดของมนุษย์เป็นอาหาร ตัวอ่อนจะคล้ายกับโลนตัวโตเต็มวัยแต่มีขนาดเล็กกว่า ใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 สัปดาห์กว่าจะโตเต็มวัย
  • โลนตัวเต็มวัย ( Adult ) ตัวโลนจะมีสีน้ำตาลอ่อน ขาหน้า 2 ขาจะใหญ่ลักษณะคล้ายก้ามปู โลนตัวเมียตัวจะใหญ่กว่าโลนตัวผู้

สาเหตุการติดเชื้อโลน

สำหรับสาเหตุการติดเชื้อโลน เกิดจากการมีตัวโลนอาสัยบนขนของมนุษย์ และ โลนดูดเลือดมนุษย์เป็นอาหารทำให้เกิดการติดเชื้อโรคได้ ซึ่งโลนสามารถแพร่สู่คนอื่นๆได้โดยผ่านการสัมผัสอย่างใกล้ชิด เช่น การกอด จูบ แต่ที่มักพบได้บ่อยที่สุด คือ การติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีโลนอาศัยบนขน ซึ่งการติดโลนไม่สามารถป้องกันได้ด้วยการสวมถุงยางอนามัย หรือ การใช้ยาคุมกำเนิด

นอกจากนี้ การใช้ผ้าร่วมกัน การใช้ห้องน้ำร่วมกันก็สามารถทำให้มีโอกาสติดโลนได้ แต่มีโอกาสน้อยมาก ปัจจัยเสียงที่ทำให้มีโอกาสติดโลน มีรายละเอียด ดังนี้

  • การอยู่อาศัยใกล้คนที่มีโลนอาศัยขนขน
  • การนอนร่วมเตียงกับคนที่มีโลนอาศัยบนขน
  • การใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับคนที่มีโลนอาศัยบนขน

อาการของโรคโลน

ลักษณะอาการของคนที่ติดโลน ลักษณะอาการที่เด่นชัด คือ คันบริเวณขนที่มีโลนอาศัยอยู่ เช่น อวัยวะเพศ ทวารหนัก ใต้รักแร้ บริเวณที่มีขน เช่น ขา หน้าอก ท้อง หรือหลัง หนวด เครา คิ้ว หรือขนตา เป็นต้น หลังจากที่โดนโลนดูดเลือดและติดเชื้อจะมีอาการผิดปรกติของร่างกาย ต่างๆ ดังนี้

  • มีไข้ต่ำ ๆ
  • อ่อนแรง ไม่มีแรง
  • มีรอยช้ำเล็ก ๆ จากการกัดบนผิวหนังบริเวณต้นขา หรือหน้าท้องส่วนล่าง
  • มีผงลักษณะสีดำติดที่กางเกงชั้นใน
  • รู้สึกคันมากบริเวณที่มีตัวโลนอาศัยอยู่
  • มีผลหรือตุ่มแดง

การรักษาโรคโลน

แนวทางการรักษาโลน สามารถรักษาได้ด้วยการใช้แชมพู โลชั่น หรือครีมที่มีส่วนประกอบของสารกำจัดแมลงจำพวกโลนหรือเหา  แต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ อย่างใกล้ชิิด แต่วิธีการรักษาที่ง่ายที่สุด คือ การกำจัดขนส่วนที่มีโลนเกาะอยู่โกนขนออกให้เกลี้ยง เพียงเท่านี้ตัวโลนก็ไม่สามารถจะเกาะอะไรได้

การป้องกันโรคโลน

สำหรับแนวทางการป้องกันการติดเชื้อโลน คือ การไม่ให้มีตัวโลนอาศัยขนขนของเรา ซี่งแนวทางการป้องกันการติดโลน มีดังนี้

  • ควรหลีกเลี่ยง การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็น โรคโลน
  • ดูแลความสะอาดตัวเอง อย่างสม่ำเสมอ
  • หมั่นทำความสะอาด เตียงนอน ซักผ้าห่ม และ ซักผ้าปูที่นอนเป็นประจำ
  • นำเครื่องนอนออกมาตากแดด อยู่สม่ำเสมอ
  • ควรหลีกเลี่ยง การใช้สิ่งของร่วมกับ ผู้ป่วยที่เป็นโรคโลนอยู่ เช่น เสื้อชั้นใน ผ้าเช็ดตัว เป็นต้น
  • หากรักษาโรคโลน จนหายเป็นปกติแล้ว ควรนำของใช้ทั้งหมดไปทิ้ง หรือ ไม่ก็เอาไปต้มในน้ำร้อน และ นำไปตากแดด เพื่อ ฆ่าตัวโลนให้ตาย ตัวโลน หากอยู่นอกร่างกายมนุษย์เกิน 2 วัน มันจะตายทันที
  • ทำความสะอาดร่างกาย และ บริเวณซ่อนเร้น ก่อน และ หลังมีเพศสัมพันธ์

หนองใน Gonorrhea ติดเชื้อเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae มีหนองในอวัยวะสืบพันธ์ คันช่องคลอด ช่องคลอดเหม็น ฉี่แล้วแสบ ปัสสาวะขัด รักษาโรคนี้อย่างไร

หนองใน โกโนเรีย โรคติดต่อ

หนองใน หรือ โกโนเรีย ภาษาอังกฤษ เรียก Gonorrhea เป็นภาวะการติดเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae มักเป็นภาวะการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้มีเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย โรคนี้จะแสดงอาการผิดปรกติที่จุดซ่อนเร้น เช่น ปากมดลูก มดลูก ปีกมดลูก ช่องคลอด ท้อปัสสาวะ ทวารหนัก อวัยะเพศรวมถึงเนื้อเยื่ออ่อนของร่างกาย เช่น เยื่อบุตา เยื่อลำคอ เยื่อบุช่องปาก พบมากในกลุ่มรักร่วมเพศ กลุ่มคนที่ชอบเปลี่ยนคู่นอน กลุ่มคนที่ชอบซื้อบริการทางเพศ หากผู้ป่วยมีภาวะตั้งครรภ์สามารถถ่ายทอดเชื้อโรคสู่ลูกได้

โรคหนองในกับประเทศไทย

รายงานจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในปี พ.ศ. 2551 พบว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคหนองในจำนวน 6,168 ราย คิดเป็นร้อยละ 15.43 ของผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คิดเป็นร้อยละ 9.76 ต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งปัจจุบันโรคนี้ลดลงมากเนื่องจากมีการรณรงค์ให้ใช้ถุงยางอนามัยกันมากขึ้น

ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคหนองใน

กิจกรรมที่ทำให้ติดเชื้อหนองใน คือ การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อหนองในโดยไม่ใช้ถุงยางป้องกัน หรือ สัมผัสเนื้อเยื่อของผู้ติดเชื้อเช่น ทางช่องปาก ทางทวารหนัก มารดาสามารถถ่ายทอดสู่ทารกได้

กิจกรรมที่ไม่ทำให้ติดเชื้อหนองใน เช่น การสัมผัสมือ การกอด การใช้แก้วร่วมกัน การใช้จานชามร่วมกัน การใช้ห้องน้ำร่วมกัน การใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกัน การนั่งฝาโถส้วมเดียวกัน การใช้สระว่ายน้ำร่วมกัน

สาเหตุการเกิดโรคหนองใน

ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหนองใน คือ การสัมผัสเชื้อโรคของผู้ทีีมีเชื้อโรค ซึ่งผู้ป่วยหลายคนมักไม่รู้ว่าตนเองเป็นโรคการป้องกันโรคหากไม่ป้องกันจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดโรคได้ดังนี้

  • ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า โดยไม่ป้องกันโรค ไม่ใช้ถุงยางอนามัย
  • ผู้ที่มีรสนิยมทางเพศแบบหมู่ สวิงกิ้ง เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • ผู้ที่ไม่ได้รับการศึกษา เรื่องเพศศึกษา สุขศึกษา

อาการของโรคหนองใน

สำหรับโรคหนองในมีระยะฟักตัวของโรคหลังจากได้รับเชื้อมักจะแสดงอาการภายใน 2-10 วัน โดยทั่วไปแล้วมักจะแสดงอาการภายใน 5 วัน ซึ่งอาการของโรคจะแตกต่างกัน ทั้ง ชาย หญิง และ ลักษณะอาการที่แสดงทั้งสองเพศ ซึ่งลักษณะอาการของโรค มีดังนี้

  • อาการหนองในสำหรับเพศชาย จะมีอาการแสบเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะขัด มีหนองไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ ระยะแรกๆอาจมีมูกใสๆ เล็กน้อย ต่อมามูกใสๆจะกลายเป็นหนองสีเหลืองข้น บางรายมีอาการปวดและบวมที่อัณฑะ การอักเสบบริเวณหนังหุ้มปลายองคชาต
  • อาการหนองในสำหรับเพศหญิง จะมีอาการตกขาวผิดปกติ ลักษณะเป็นหนองสีเหลืองหรือสีเขียว มีกลิ่นเหม็น มีอาการแสบเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะขุ่น ปวดท้องน้อย เลือดออกกะปริดกะปรอยในระหว่างมีรอบเดือน มีการอักเสบของมดลูก มีไข้สูง หนาวสั่น ปวด เจ็บตรงท้องน้อย
  • อาการทั่วไปของโรคหนองใน เป็นอาการที่แสดงในทุกเพศที่มีภาวะติดเชื้อหนองใน คือ มีอาการเจ็บคอ มีไข้ ปวดหน่วง น้ำหนองออกมาเวลาปัสสาวะ อาจติดเชื้อที่เยื่อบุตา ระคายเคืองตา มีหนองไหลออกจากตา อาจมีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบบวม และเจ็บ

โรคหนองในจำเป็นต้องได้รับการรักษา หากปล่อยไว้ไม่รักษา อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้เสียชีวิตได้

ภาวะแทรกซ้อนของโรคหนองใน

โรคหนองในนอกจากการรักษาภาวะการเกิดโรคแล้ว หากปล่อยไว้ไม่รักษาหรือรักษาช้าเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ซึ่งภาวะแทรกซ้อนแบ่งได้ตามการแสดงอาการของเพศต่างๆ ดังนี้

  • ภาวะแทรกซ้อนในเพศชาย เชื้อหนองในอาจลุกลามเข้าไปยังบริเวณใกล้เคียง ทำให้ท่อปัสสาวะอักเสบ ท่อปัสสาวะตีบตัน อาจทำให้ต่อมลูกหมากอักเสบ เป็นฝีที่ผนังของท่อปัสสาวะ ทำให้มีบุตรได้ยากหรือกลายเป็นหมันได้
  • ภาวะแทรกซ็อนในเพศหญิง เชื้อหนองในอาจลุกลามทำให้ต่อมบาร์โทลิน ( Bartholine’s gland ) ทำให้เยื่อบุมดลูกอักเสบ  ปีกมดลูกอักเสบ ท่อรังไข่ตีบตันกลายเป็นหมัน ทำให้เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้
  • สำหรับอาการแทรกซ้อนที่สามารถเกิดได้ทั้งสองเพศ คือ เชื้อโรคอาจเข้าสู่กระแสเลือดที่ข้อกระดูก ทำให้เป็นโรคข้ออักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบ ทำให้ลิ้นหัวใจรั่ว และ หัวใจวาย

การรักษาโรคหนองใน

แนวทางการรักษาโรคหนองในในปัจจุบัน สามารถรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งผลการรักษาค่อนข้างได้ผลดี พบว่ามากกว่าร้อยละ 95 สามารถรักษาให้หายได้ แต่ควรรับการรักษาเร็วที่สุด เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่จะตามมา ภายหลังการรักษาหากพบว่ามีอาหารอยู่ควรรีบพบแพทย์อีกครั้ง

นอกจากการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะและ ต้องปรับพฤติกรรมการดำรงชีวิต ปรับพฤติกรรมทางเพศ การรักษาความสะอาด การไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง และ หยุดกิจกรรมทางเพศทุกชนิดจนกว่าจะหายดี

การป้องกันโรคหนองใน

สำหรับแนวทางการป้องกันการติดเชื้อโรคหนองในมีแนวทางการปฏิบัติ ดังนี้

  • ผู้ที่ป่วยโรคนี้ ไม่แพร่เชื้อ หยุดกิจกรรมทางเพศทั้งหมด จนแน่ใจว่าหายดี
  • ไม่เปลี่ยนคู่นอน ควรมีแค่คู่เดียว
  • หากเกิดอาการ แสบ ปัสสาวะขัด มีผื่นแดงที่อวัยวะเพศ ให้หยุดกิจกรรมทางเพศก่อน รีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา จนกว่าจะหายขาด
  • หากิจกรรมยามว่าง เพื่อไม่ให้หมกมุ่นเรื่องเพศมากจนเกินไป
ถุงกระสอบ ถุงล้อลาก ถุงสายรุ้ง ถุงการ์ตูน
ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove

สมุนไพรน่ารู้

คนทั่วไปมักเข้าใจว่าสมุนไพร คือ พืชที่สามารถนำมาทำเป็นยาเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว สมุนไพรนั้นหมายรวมถึง สัตว์ หรือ แร่ธาตุจากธรรมชาติด้วย เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่สามารถใช้รักษาโรคและบำรุงร่างกาย เพื่อประโยชน์กับทุกคน
ดอกคำฝอย สมุนไพร สรรพคุณของคำฝอย
ดอกคำฝอย
ว่านชักมดลูก สมุนไพร
ว่านชักมดลูก
โด่ไม่รู้ล้ม สมุนไพร สรรพคุณของโด่ไม่รู้ล้ม
ว่านโด่ไม่รู้ล้ม
หมามุ่ย สมุนไพร สรรพคุณหมามุ่ย
หมามุ่ย