ผักกระเฉด นิยมนำยอดอ่อนมาทำอาหารรับประทาน ลักษณะของผักกระเฉดเป็นอย่างไร สรรพคุณของผักกระเฉด เช่น บำรุงสายตาย ขับเสมหะ ขับลม เป็นต้น โทษของผักกระเฉด มีอะไรบ้าง
ผักกระเฉด ( Water mimosa ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของผักกระเฉด คือ Neptunia oleracea Lour. สำหรับชื่อเรียกอื่นๆของผักกระเฉด เช่น ผักกระเฉดน้ำ ผักรู้นอน ผักหนอง ผักหละหนอง ผักฉีด เป็นต้น กระเฉด เป็นพืชน้ำ อายุยืน นิยมนำยอดอ่อนมาทำอาหาร หรือ กินเป็น ผักสด หลากหลายเมนู เช่น ผัดผักกระเฉด ยำผักกระเฉด แกงส้ม ยำวุ้นเส้นผักกระเฉด ผัดหมี่กระเฉด เส้นหมี่ผัดกระเฉดกุ้ง ผัดผักกระเฉดไฟแดง ผักกระเฉดผัดน้ำมันหอย ผักกระเฉดทอดไข่สามรส แกงส้มผักกระเฉดปลาช่อนทอด เป็นต้น
ผักกระเฉดในประเทศไทย
ผักกระเฉด จัดเป็นพืชเศรษฐกิจ สามารถหาซื้อได้ตามตลาดทั่วในในประเทศไทย อาหารไทยมีการนำเอาผักกระเฉดมาปรุงอาหารหลายชนิด เช่น ยำผักกระเฉด แกงส้ม ผัดผักกระเฉด ซึ่งพื้นที่สำหรับปลูกผักกระเฉดมากที่สุดของประเทศไทย คือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีเนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่ และ เนื้อที่ปลูกผักกระเฉดทั้งจังหวัดสมุทรปราการมี 2,500 ไร่
ลักษณะของผักกระเฉด
ผักกระเฉด เป็นพืชล้มลุก พืชน้ำ สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี เจริญเติบโตได้ดีในแหล่งน้ำขัง ผักกระเฉดไม่สามารถปลูกในดินที่ไม่มีน้ำขังได้ ผักกระเฉด ไวต่อแสง จะแทงยอดมากในช่วงฤดูร้อน เดือนมีนาคม ถึง พฤษภาคม ของทุกปี ลักษณะของผักกระเฉด มีดังนี้
คุณค่าทางโภชนาการของผักกระเฉด
สำหรับการนำผักกระเฉดมาใช้ประโยชน์นั้น จะนำมารับประทานยอดอ่อน ซึ่งนักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของผักกระเฉด ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 29 กิโลแคลอรี่ มีสารอาหารสำคัญประกอบด้วย โปรตีน 6.4 กรัม ไขมัน 0.4 กรัม แคลเซียม 387 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 7.0 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 5.3 มิลลิกรัม เบต้า-แคโรทีน 3,710 ไมโครกรัม ไทอะมีน 0.12 มิลลิกรัม ไรโบฟลาวิน 0.14 มิลลิกรัม วิตามินบี1 0.12 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.14 มิลลิกรัม ไนอะซีน 3.2 มิลลิกรัม วิตามินซี 22 มิลลิกรัม กากใยอาหาร 1.8 กรัม
สรรพคุณของผักกระเฉด
สำหรับการใช้ประโยชน์จากผักกระเฉดด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค นิยมการรับประทานทั้งต้น และ ยอดอ่อน โดยสรรพคุณของผักกระเฉด มีดังนี้
โทษของผักกระเฉด
สำหรับการรับประทานผักกระเฉด มีคำแนะนำ ในการรับประทานผักกระเฉด ดังนี้