กระเจียว หรือ ว่านมหาเมฆ สมุนไพร พืชขึ้นชื่อดอกสวยงาม ต้นกระเจียวเป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการ สรรพคุณขับพิษ แก้ท้องอืด โทษของกระเจียวมีอะไรบ้าง
ต้นกระเจียว เป็นพืชตระกูลขิง ชื่อวิทยาศาสตร์ของกระเจียว คือ Curcuma sessilis Gage. สำหรับชื่อเรียกอื่นๆของกระเจียว เช่น ว่านมหาเมฆ อาวแดง กาเตียว กระเจียวแดง จวด กระเจียวสี กระเจียวป่า เป็นต้น
ต้นกระเจียวในประเทศไทย
ประเทศไทย สามารถพบเห็นต้นกระเจียว ได้ตามพื้นที่ภาคเหนือ และ ภาคอีสาน ซึ่ง จังหวัดชัยภูมิ มีเทศกาลดอกกระเจียวบาน เป้นพื้นที่ที่มีต้นกระเจียวขึ้นมาก เทศกาลทุ่งดอกกระเจียวบาน เป็นเทศกาลท่องเที่ยวของจังหวัดชัยภูมิ ต้นกระเจียว ในประเทศไทย พบว่ามี 2 ชนิด คือ ต้นกระเจียวแดง และ ต้นกระเจียวขาว
ลักษณะของต้นกระเจียว
ต้นกระเจียวแดง เป็นพืชล้มลุก สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการแตกหน่อ โดยพบได้ทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งพบมากตามป่าดิบทั่วไป ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และ ที่โล่งทั่วไป ลักษณะของต้นกระเจียว มีดังนี้
คุณค่าทางโภชนาการของกระเจียว
สำหรับการบริโภคกระเจียว เราสามารถบริโภคส่วนของหน่ออ่อน และ ดอกกระเจียว โดยสามารถรับประทานเป็นผักสดได้ โดยนักโภชนากการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของกระเจียว พบว่ารายละเอียด ดังนี้
คุณค่าทางโภชนาการของหน่ออ่อนกระเจียว ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงานมากถึง 35 กิโลแคลอรี โดยพบสารอาหารสำคัญมากมาย ประกอบด้วย โปรตีน 1.3 กรัม คาร์โบไฮเดรต 6 กรัม ฟอสฟอรัส 40 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 2 มิลลิกรัม แคลเซียม 45 มิลลิกรัม และ วิตามินต่างๆ คือ วิตามินบี1 วิตามินเอ และ วิตามินบี2
สรรพคุณของกระเจียว
สำหรับการใช้ประโยชน์จากต้นกระเจียว ด้านการบำรุงร่างกายและรักษาโรค สามารถใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ เหง้า ดอก หน่ออ่อน และ ดอก โดย สรรพคุณของกระเจียว มีรายละเอียด ดังนี้
โทษของกระเจียว
การใช้ประโยชน์จากกระเจียว สามารถนำมาบริโภคใส่ของหน่ออ่อน ซึ่งรสชาติของกระเจียว มีความเผ็นร้อย การกินกระเจียวมากเกินไปทำให้เกิดพิษต่อร่างกายได้ และ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังได้