อะโวคาโด ผลไม้ต่างแดน สมุนไพรสารพัดประโยชน์ ลดความอ้วนได้

อะโวคาโด้ ลูกเนย ผลไม้ต่างแดน ราคาสูง สรรพคุณหลากหลาย เช่น บำรุงระบบเลือด ลดไขมัน บำรุงผิวพรรณ สามารถใช้แทนเนยได้ นิยมใช้ลดน้ำหนัก โทษของอะโวาโด้ มีอะไรบ้างอโวคาโด้ สมุนไพร ผลไม้ สรรพุคณของอะโวคาโด้

ต้นอโวคาโด้ ภาษาอังกฤษ เรียก Avocado ชื่อวิทยาศาสตร์ของอะโวคาโด้ คือ Persea americana Mill สำหรับชื่อเรียกอื่นๆของอะโวคาโด้ เช่น ลูกเนย ต้นอโวคาโด้มีถิ่นกำเนิดในประเทศเม็กซิโก ซึ่งเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมในประเทศแถบยุโรปและอเมริกา ต้นอโวคาโด้ถูกนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยครั้งแรกที่จังหวัดน่าน ต่อมาจึงแพร่หลายในทุกภาคของประเทศไทย

สายพันธ์อะโวคาโด้

สำหรับต้นอะโวคาโด้ที่ได้รับความนิยม มี 3 สายพันธ์ คือ สายพันธ์กัวเตมาลา สายพันธ์อินดีสตะวันตก และ สายพันธ์เม็กซิโก โดยราบละเอียด มีดังนี้

  • สายพันธ์กัวเตมาลา ลักษณะเด่น คือ ผลสีเขียว ขั้วของผลจะขรุขระ เมล็ดค่อนข้างกลม เนื้อหนา ให้ไขมันสูง ชอบอากาศหนาวเย็นปานกลาง ซึ่งสายพันธ์กัวเตมาลา เช่น พันธุ์แฮส (Hass) และ พันธุ์พิงค์เคอตัน (Pinkerton)
  • สายพันธ์อินดีสตะวันตก ลักษณะเด่น คือ ผลเรียบเป็นมัน สีเขียวอมเหลือง เปลือกหนา รสหวานอ่อนๆ ให้ไขมันน้อย ชอบอากาศร้อน ซึ่งสายพันธ์อินดีสตะวันตก เช่น พันธุ์ปีเตอร์สัน (Peterson)
  • สายพันธ์เม็กซิโก ลักษณะเด่น คือ ผลเล็ก ผิวเรียบ สีม่วง เปลือกบาง เมล็ดใหญ่ ให้ไขมันมาก ทนอากาศเย็นได้ดี

ประโยชน์ของอะโวคาโด้ สามารถรับประทานเป็นผลไม้สด ทำให้อิ่มท้อง ใช้เป็นอาหารลดน้ำหนักได้ดี สกัดนำน้ำมันจากอะโวคาโด้มาใช้ประโยชน์ต่างๆ เช่น เพื่อการบริโภค นำมาเป็นส่วนผสมในครีมบำรุงผิว และ นำมาเป็นส่วนผสมของแชมพูบำรุงเส้นผม

ลักษณะของต้นอะโวคาโด้

ต้นอะโวคาโด เป็นไม้ยืนต้น ขนาดกลาง สามารถขยายพันธ์โดยการตอนกิ่ง และ เพาะเมล็ดพันธ์ ซึ่งลักษณะของต้นอะโวลาโด้ มีดังนี้

  • ลำต้นอะโวคาโด เปลือกของลำต้นจะมีสีน้ำตาลอ่อน ผิวขรุขระ ความสูงประมาณ 20 เมตร
  • ใบอะโวคาโด ลักษณะใบใหญ่รียาว สากมือ ใบสีเขียวสด
  • ดอกอะโวคาโด ออกดอกเป็นช่อออกดอกที่ปลายกิ่ง ขนาดเล็ก ดอกมีสีเขียวอมเหลือง
  • ผลอะโวคาโด ลักษณะกลมรี ภายในผลมีเนื้อสีเหลืองอ่อน รสชาติมัน ไม่มีกลิ่น ภายในมีเมล็ดอยู่ตรงกลางของผล

วิธีปลูกอะโวคาโด

สำหรับการเพาะพันธ์ต้นอโวคาโด้นิยมใช้เมล็ดในการขยายพันธุ์ ซึ่งเริ่มจากการนำเมล็ดล้างด้วยน้ำอุ่น นำกระดาษชำระพรมน้ำให้ชุ่ม ใส่ถุงพลาสติก โดยไม่ต้องปิดปากถุง วางเมล็ดลงคอยสังเกตุอย่าให้กระดาษแห้ง รอจนรากงอกออกมา ประมาณ 3 นิ้ว จึงค่อยย้ายลงกระถางปลูกและกลบดินครึ่งลูก รดน้ำให้ชุ่ม ครบ 3 เดือนให้ย้ายกระถางที่ใหญ่ขึ้น

คุณค่าทางโภชนาการของอะโวคาโด้

สำหรับการรับประทานอะโวคาโด้ นิยมนรับประทานเนื้อผลสุกของอะโวคาโด้เป็นอาหาร ซึ่งนักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของผลอะโวคาโด้ ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงานมากถึง 160 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 8.53 กรัม น้ำตาล 0.66 กรัม กากใยอาหาร 6.7 กรัม ไขมัน 14.66 กรัม กรดไขมันอิ่มตัว 2.13 กรัม กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 9.8 กรัม กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 1.82 กรัม โปรตีน 2 กรัม น้ำ 73.23 กรัม วิตามินเอ 7 ไมโครกรัม เบตาแคโรทีน 42 ไมโครกรัม ลูทีนและซีแซนทีน 271 ไมโครกรัม วิตามินบี1 0.067 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.13 มิลลิกรัม วิตามินบี3 1.738 มิลลิกรัม วิตามินบี5 1.389 มิลลิกรัม วิตามินบี6 0.257 มิลลิกรัม วิตามินบี9 81 ไมโครกรัม วิตามินซี 10 มิลลิกรัม วิตามินอี 2.07 มิลลิกรัม วิตามินเค 21 ไมโครกรัม ธาตุแคลเซียม 12 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.55 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 29 มิลลิกรัม ธาตุแมงกานีส 0.142 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 52 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 485 มิลลิกรัม ธาตุโซเดียม 7 มิลลิกรัม และธาตุสังกะสี 0.64 มิลลิกรัม

สรรพคุณของอะโวคาโด

สำหรับการนำอะโวคาโด้มาใช้ประโยชน์จากผล นำมารับประทานสดๆ หรือ นำมาสกัดนำน้ำมันมาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งสรรพคุณของอะโวคาโด้ มีดังนี้

  • บำรุงร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย
  • บำรุงพิวพรรณ ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าสดใส
  • บำรุงสายตา ช่วยชะลอการเสื่อมของกระจกตา
  • ช่วยบำรุงเลือด ลดไขมันเลว ( LDL ) ลดความเสี่ยงไขมันอุดตันเส้นเลือด ลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจ
  • ป้องกันมะเร็ง มีสารต้านการเกิดมะเร็ง เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และ มะเร็งปากมดลูก
  • เสริมสร้างภูมิต้านทานโรค ป้องกันโรคหวัด
  • ช่วยระบบขับถ่าย เนื่องจากมีกากใยอาหารสูง
  • มีโฟเลตสูง เหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์ สร้างความแข็งแรงให้กับบุตรในครรภ์
  • บำรุงเส้นผม รักษาอาการผมร่วง รักษาศีรษะล้าน

โทษของอะโวคาโด้

สำหรับการรับประทานหรือใช้ประโยชน์จากอะโวคาโด้ มีข้อควรระวัง เนื่องจากอะโวคาโด้มีความเป็นพิษ หากใช้อย่างไม่เหมาะสำอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ โทษของอะโวคาโด้ มีดังนี้

  • ผลดิบอะโวคาโด้ มีสารแทนนินในปริมาณมาก ให้รสขม หากรับประทานมากเกินไปจะมีอาการ เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง อาเจียน ผื่นคัน ลมพิษ หากรุนแรงอาจจะเสียชีวิตได้
  • ใบ เปลือกต้น และ เปลือกชั้นเอนโดคาร์บของอะโวคาโด มีความเป็นพิษต่อสัตว์หลายชนิดทั้งแมว หมา แพะ กระต่าย หนู นก ปลา ไก่ และม้า

สูตรมาร์กหน้าอะโวคาโด

ควรทำการมาร์กหน้า ทุกๆ สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลควรทำต่อเนื่อง สูจรนี้เป็นสูตรกลาง สำหรับผิวทุกสภาพ สามารถเติมส่วนผสมเพิ่มเติมตามชอบใจได้

  • ผลอะโวคาโดสุก ประมาณ 2 ลูก น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ไข่แดง 1 ฟอง
  • นำส่วนผสมทั้งหมดปั่นให้ละเอียด
  • ล้างหน้าให้สะอาดก่อนมาร์ก และเช็ดให้แห้ง
  • ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที
  • ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ๆ จะทำให้หน้าตึง ชุ่มชื้น ดูอ่อนกว่าวัย

วิธีทำเครื่องดื่มอะโวคาโด

เครื่องดื่มอะโวคาโด ใช้ดื่มตอนเช้า บำรุงร่างกาย หรือ ใช้ดื่มดับกระหายได้ตามต้องการ มีประโยชน์ต่อร่างกาย

  • หั่นอะโวคาโดเป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณ 1 กำมือ
  • หั่นมะเขือเทศล้างสะอาดเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ผล
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
  • น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1 ถ้วย
  • น้ำแข็ง 2 ถ้วย
  • เกลือป่นนิดหน่อยประมาณ 1/4 ช้อนชา
  • ใส่อะโวคาโด และ มะเขือเทศ หั่นที่เตรียมไว้ ลงเครื่องปั่น
  • ใส่น้ำเปล่า และ น้ำแข็ง เติมน้ำมะนาว 1 ช้อนชา และ น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ปั่นจนละเอียด
  • เติมเกลือเล็กน้อย และปั่นนิดหน่อย เพื่อให้เข้ากัน
  • ใช้ดื่มดับกระหาย ดื่มเป็นประจำบำรุงร่างกาย

Last Updated on March 18, 2021