มะขาม Tamarind นิยมทานผลมะขาม ผลไม้ รสเปรี้ยวหวาน ต้นมะขามเป็นอย่างไร ประโยชน์และสรรพคุณเป็นยาระบาย บำรุงผิว แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลม โทษของมะขาม

มะขาม ผลไม้ สมุนไพร

มะขาม มีชื่อสามัญ ว่า Tamarind ชื่อวิทยาศาสตร์ของมะขาม คือ  Tamarindus indica L. พืชตระกูลถั่ว มะขาม เป็นพันธุ์ไม้ยืนต้น ถิ่นกำเนิดของมะขาม มาจากทวีปแอฟริกา มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศแถบเอเชีย จากช่องทางการค้าทางเรือ มะขามในความเชื่อตามตำราพรหมชาติ มะขามเป็นไม้มงคล ช่วยป้องกันสิ่งเลวร้าย ทำให้เป็นคนเกรงขาม

มะขามในประเทศไทย

มะขามในประเทศไทย จัดเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง สำหรับจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องมะขาม คือ เพชรบูรณ์ มีฉายาว่า เมืองมะขามหวาน เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับ การปลูกมะขาม มะขามในประเทศไทย มี 2 กลุ่ม คือ มะขามเปรี้ยว ( sour tamarind ) และ มะขามหวาน ( sweet tamarind )

คุณค่าทางโภชนาการของมะขาม

สำหรับ ประโยชน์ของมะขาม นักโภชนากการ ได้ ศึกษา คุณค่าทางโภชนาการของมะขาม ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของมะขามดิบ ขนาด 100 กรัม พบว่า ให้พลังงาน 239 กิโลแคลอรี

มะขามดิบ ขนาด 100 กรัม มีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 62.5 กรัม น้ำตาล 57.4 กรัม กากใยอาหาร 5.1 กรัม ไขมัน 0.6 กรัม โปรตีน 2.8 กรัม ธาตุแคลเซียม 74 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 2.8 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 92 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 113 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 628 มิลลิกรัม ธาตุโซเดียม 28 มิลลิกรัม และสังกะสี 0.1 มิลลิกรัม

มะขามดิบ ขนาด 100 กรัม มีวิตามินต่างๆ ประกอบด้วย วิตามินบี 1 0.428 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.152 มิลลิกรัม วิตามินบี 3 1.938 มิลลิกรัม วิตามินบี 5 0.143 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 0.066 มิลลิกรัม วิตามินบี 9 14 ไมโครกรัม โคลีน 8.6 มิลลิกรัม วิตามินซี 3.5 มิลลิกรัม วิตามินอี 0.1 มิลลิกรัม วิตามินเค 2.8 ไมโครกรัม

ลักษณะของต้นมะขาม

ต้นมะขาม คือ ไม้ยืนต้น ขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ลักษณะแตกกิ่งก้านสาขามาก ไม่มีหนาม ลักษณะของต้นมะขาม มีดังนี้

  • ลำต้นมะขาม ตั้งตรง สูงประมาณ 10-15 เมตร เปลือกขรุขระ หนา สีน้ำตาลอ่อน
  • ใบมะขาม มีขนาดเล็ด จำนวนมาก ใบเป็นใบประกอบ ปลายใบและโคนใบมน
  • ดอกมะขาม ออกตามปลายกิ่ง ดอกมีขนาดเล็ก สีเหลือง มีจุดประสีม่วงแดง
  • ผลมะขาม ออกเป็นฝักยาว ฝักอ่อนเปลือกสีเขียวอมเทา หรือ สีน้ำตาลเกรียม มีเนื้อในติดกับเปลือก ส่วนฝักแก่ฝัก เปลือกแข็งกรอบ และ หักง่าย สีน้ำตาล เนื้อในเป็นสีน้ำตาล เนื้อมะขามแก่มีรสเปรี้ยว มีเมล็ด

สรรพคุณของมะขาม

สำหรับมะขาม สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านการบำรุงร่างกาย และ การรักษาโรค มะขามนิยมนำใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง และ ปรุงรสชาติของอาหาร สรรพคุณของมะขาม มีดังนี้

  • รากมะขาม สรรพคุณ แก้ท้องร่วง ช่วยสมานแผล รักษาเริม รักษางูสวัด
  • เปลือกต้นมะขาม สรรพคุณช่วยลดไข้ แก้ไข้ แก้ตัวร้อน
  • แก่นไม้มะขาม สรรพคุณช่วยขับโลหิต ขับเสมหะ รักษาฝีในมดลูก รักษาโรคบุรุษ เป็นยาชักมดลูก ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ สำหรับสตรีหลังคลอด
  • ใบมะขาม มีความเป็นกรดเล็กน้อย สรรพคุณเป็นยาถ่าย ช่วยขับถ่าย ช่วยขับลมในลำไส้ แก้ไอ แก้ปวดท้อง รักษาไข้หวัด ขับเสมหะ แก้ตาอักเสบ ฟอกโลหิต ขับเหงื่อ
  • เนื้อของผลมะขาม สรรพคุณแก้ท้องผูก เป็นยาระบาย ขับเสมหะ แก้ไอ แก้กระหายน้ำ ช่วยเจริญอาหาร
  • ผลมะขามดิบ สรรพคุณช่วยฟอกเลือด ลดความอ้วน เป็นยาระบายอ่อนๆ ลดอุณหภูมิในร่างกาย ลดไข้
  • เนื้อในเมล็ดมะขาม สรรพคุณเป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือนตัวกลม ถ่ายพยาธิเส้นด้าย
  • เปลือกเมล็ดมะขาม สรรพคุณแก้ท้องร่วง รักษาแผลในปาก รักษาแผลสด ถอนพิษ รักษาไฟไหม้
  • ดอกมะขาม สรรพคุณลดความดันโลหิต

โทษของมะขาม

มะขาม มีรสเปรี้ยว มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม ก็เกิดโทษได้ สำหรับข้อควรระวังในการใช้ประโยชน์จากมะขาม มีดังนี้

  • มะขามเปียก ที่ซื้อในตลาดอาจมีสิ่งสกปรกเจือปน หากนำมาทำอาหาร หรือ รับประทานแบบไม่สะอาด อาจทำให้ท้องเสียอย่างหนัก ซึ่งมะขามมีสรรพคุณเป็นยาระบายอยู่แล้ว อาจเป็นอันตรายได้หากเกิดภาวะติดเชื้อที่ระบบทางเดินอาหาร และ ภาวะร่างกายขาดน้ำ
  • มะขามเปียกใช้ขัดผิว หรือ พอกหน้า แต่หากใช้มะขามเปียกเกินอาทิตย์ละ 2 ครั้ง อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
  • สำหรับการขัดผิว หรือ พอกหน้า ด้วยมะขามปียก อย่าลืมบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ด้วยครีมบำรุงผิว และ ครีมกันแดด

การปลูกมะขาม

สำหรับการปลูกมะขาม นิยมขยายพันธุ์มะขาม โดยการทาบกิ่ง การติดตา การต่อกิ่ง มะขามขึ้นได้ในดินทุกชนิด ทนแล้งได้ดี ฤดูปลูกที่เหมาะสมในการปลูกมะขามคือฤดูฝน รายละเอียด การปลูกมะขาม มีดังนี้

  • เตรียมดินโดยขุดหลุมกว้าง ยาว และ ลึก ด้านละ 60 ซม.
  • ใส่ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมัก คลุกเคล้าดินรองก้นหลุม
  • เอากิ่งพันธุ์ ลงปลูก รดน้ำให้ชุ่ม มะขามเมื่อลงดินแล้วจะโตเร็ว
  • ควรใช้ไม้หลักพยุงไว้ให้แน่น และ บำรุงรักษาหลังเริ่มปลูก เอาใจใส่รดน้ำทุกวัน กำจัดหญ้ารอบต้น

ต้นมะขาม ( Tamarind ) พืชพื้นเมือง นิยมทานผลมะขาม เป็น ผลไม้ รสเปรี้ยว และ หวาน ลักษณะของต้นมะขาม ประโยชน์ของมะขาม สรรพคุณของมะขาม เช่น เป็นยาระบาย บำรุงผิว แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลม บำรุงหัวใจ โทษของมะขาม

ขิง สมุนไพร มีประโยชน์ต่อร่างกาย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ สรรพคุณของขิง เช่น ช่วยเจริญอาหาร ช่วยขับเหงื่อ บำรุงเลือด ลดไขมันในเส้นเลือด โทษของขิงเป็นอย่างไร

ขิง สมุนไพร

ขิง ( Ginger ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของขิง คือ zingiber offcinale Roscoe ขิงมีความต้องการของตลาดสูงมาก พืชเศรษฐกิจ ที่สำคัญของประเทศไทย นิยมนำมาทำเป็นวัตถุดิบการทำอาหาร เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมความงาม อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป มากมาย ชื่อเรียกอื่นๆของขิง เช่น ขิงแครง ขิงเขา ขิงบ้าน ขิงป่า ขิงดอกเดียว ขิงแดง ขิงแกลง ขิงเผือก เป็นต้น

ขิง มีรสเผ็ดร้อน เป็น สมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อการปรับสมดุลร่างกาย ช่วยให้เจริญอาหาร แก้นิ่ว บำรุงธาตุไฟ ช่วยย่อยอาหาร ฆ่าพยาธิ แก้บิด แก้อาเจียน รักษาไข้หวัด ลดไข้  ขับลมในกระเพาะอาหาร ลดไขมันในเส้นเลือด บำรุงเลือด ลดกรดในกระเพาะอาหาร ป้องกันฟันฝุ แก้ปวดประจำเดือน รักษาแผล แก้ปวดฟัน

ขิงยิ่งแก่จะยิ่งให้ความเผ็ดร้อน จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีความร้อนภายในร่างกายอยู่แล้ว เช่น ผู้ที่เหงื่อออกมาก เหงื่อออกเวลากลางคืน ตาแดง หรือ มีไฟในตัวมากกว่าปกติ แต่ถ้าจะรับประทาน ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

ลักษณะของต้นขิง

ต้นขิง เป็น พืชล้มลุก สามารถเจริญเติบโตได้ในประเทศเขตร้อน อย่างประเทศไทย สามารถขยายพันธ์โดยทางการแตกหน่อ ขิงเป็นพืชชนิดเดียวกันกับ ข่า ขมิ้น มีรสเผ็ดและกลิ่นหอม แต่ผลยิ่งแก่จะมีรสเผ็ดร้อนมากขึ้น ลักษณะของต้นขิง มีดังนี้

  • หัวขิง หรือ เหง้าขิง ลักษณะคล้ายมือ อยู่ใต้ดิน เปลือกของเหง้าขิงมีสีเหลืองอ่อน
  • ลำต้นของขิง ออกเป็นกอ ความสูงประมาณ 100 เซนติเมตร ลักษณะกลม ตั้งตรง อวบน้ำ มีสีเขียว
  • ใบของขิง ใบเป็นกาบ หุ้มซ้อนกันเป็นใบเดี่ยว ออกสลับเรียงกัน เหมือนใบไผ่ ลักษณะปลายใบจะเรียวแหลม
  • ดอกของขิง ดอกขิงออกเป็นพุ่ม ดอกแหลมมีสีขาว

คุณค่าทางโภชนาการของขิง

ขิงมีประโยชน์ด้านสมุนไพร และ ใช้ในการบริโภคในอาหารไทย มาช้านาน นักโภชนาการได้ศึกษา คุณค่าทางโภชนาการของขิง ขนาด 100 กรัม พบว่า ให้พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่

ขิงขนาด 100 กรัม มีสารอาหารสำคัญ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ประกอบด้วย กากใยอาหาร 0.8 กรัม คาร์โบไฮเดรท 4.4 กรัม โปรตีน 0.4 กรัม ไขมัน 0.6 กรัม ธาตุเหล็ก 1.2 มิลลิกรัม แคลเซียม 18 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม เบต้าคาโรทีน 10 ไมโครกรัม ไธอะมีน 0.02 มิลลิกรัม วิตามินซี 1 มิลลิกรัม ไนอะซีน 1 มิลลิกรัม และ ไลโบฟลาวิน 0.02 มิลลิกรัม

สรรพคุณของขิง

สำหรับต้นขิงนั้น สามารถนำมาใช้ประโยชน์ด้านการบำรุงร่างกาย และ การรักษาโรค มากมาย สามารถใช้ส่วนของ ทั้งตน เหง้าขิง ดอกขิง รากขิง ใบขิง ผลขิง และ แก่นขิง โดยรายละเอียด ดังนี้

  • เหง้าขิง หรือ หัวของ ตำราสมุนไพรไทย บอกไว้ว่า ขิงมีฤทธิ์อุ่น สรรพคุณ ช่วยขับเหงื่อ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยย่อยอาหาร ฆ่าพยาธิ แก้บิด แก้อาเจียน รักษาไข้หวัด ช่วยลดไข้ ขับลมในกระเพาะอาหาร แก้ปวดประจำเดือน รักษาแผล แก้ปวดฟัน ลดไขมันในเส้นเลือด บำรุงเลือด ลดกรดในกระเพาะอาหาร ป้องกันฟันฝุ  หัวขิงนำมาใช้ประโยชน์หลายทาง เช่น นำมากินสด นำมาตากแห้งและบดเป็นผง หรือ นำมาต้นน้ำดิื่ม
  • ทั้งต้นของขิง มีรสเผ็ดร้อน สรรพคุณช่วยขับลม แก้จุกเสียด แก้ท้องร่วง
  • ใบของขิง มีรสเผ็ดร้อน สรรพคุณแก้ฟกช้ำ รักษานิ่ว ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยฆ่าพยาธิ
  • ดอกของขิง มีรสเผ็ดร้อน สรรพคุณช่วยย่อยอาหาร ช่วยขับปัสสาวะ รักษาโรคปัสสาวะขัด
  • รากของขิง มีรสหวานเผ็ดร้อนขม สรรพคุณช่วยเจริญอาหาร ขับเสมหะ
  • ผลของขิง รสหวานเผ็ด สรรพคุณสำหรับสตรีหลังคลอด บำรุงน้ำนม ช่วยลดไข้ แก้เจ็บคอ ลดอาการอักเสบ แก้ตาฟาง เป็นยาอายุวัฒนะ
  • แก่นของขิง นำมาฝนเป็นผงแก้อาการคัน

โทษของขิง

เนื่องจากขิง เป็น สมุนไพร ซึ่ง สรรพคุณของขิง คือ มีฤทธ์ร้อน ทำให้ร่างกายอบอ่อน ไม่ควรกินสุรา หรือ เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ ร่วมกับขิง และ ในคนที่ป่วย หรือ มีอุณหภูมิร่างกายสูง การกินขิงอาจทำให้ร่างกายร้อนขึ้น

  • อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนสำหรับสตรีมีครรภ์
  • ทำให้เกิดแผลร้อนใน ทำให้เยื่อบุภายในช่องปากอักเสบได้
  • ขิงช่วยยับยั้งการแข็งตัวของเลือด สำหรับคนที่มีปัญหาโรคเลือดออกผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขิง
  • น้ำขิงที่คั้นจนเข้มค้นมาก ไม่ควรทำให้น้ำขิงเข้มข้นจนเกินไป เพราะ เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ทำให้ลำไส้หยุดการบีบตัว

วิธีทำน้ำขิง

น้ำขิง มีประโยชน์ทางสมุนไพร เช่น แก้อาเจียน อาการเบื่ออาหาร ช่วยขับลมในกระเพาะ รักษาไข้หวัดได้  ช่วยขับเหงื่อ ลดอาการไข้ ช่วยบรรเทาอาหารไอ อาการเจ็บคอ ช่วยรักษาอาการปวดประจำเดือน แก้อาการท้องเสีย ท้องร่วง วิธีทำน้ำขิง มีดังนี้

  1. เตรียม ขิงแก่ 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วยตวง และ น้ำสะอาด 3 ลิตร
  2. ล้างขิงให้สะอาด นำมาทุบให้แตก นำไปต้มในหม้อต้ม ต้มขิงในน้ำเดือด แล้วค่อยเบาไฟลง ต้มนานประมาณ 20 นาที ต้มจนหอมกลิ่นน้ำขิง
  3. เติมน้ำตาลทรายแดง นำมาดื่มแบบร้อนๆ  หรือ ดื่มแบบเย็นๆ ด้วยการใส่น้ำแข็ง

ขิง คืิอ พืชล้มลุก สมุนไพร พืชพื้นบ้าน มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ประโยชน์ของขิง สรรพคุณของขิง เช่น ช่วยเจริญอาหาร ช่วยขับเหงื่อ บำรุงเลือด ลดไขมันในเส้นเลือด โทษของขิง

ถุงกระสอบ ถุงล้อลาก ถุงสายรุ้ง ถุงการ์ตูน
ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove

สมุนไพรน่ารู้

คนทั่วไปมักเข้าใจว่าสมุนไพร คือ พืชที่สามารถนำมาทำเป็นยาเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว สมุนไพรนั้นหมายรวมถึง สัตว์ หรือ แร่ธาตุจากธรรมชาติด้วย เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่สามารถใช้รักษาโรคและบำรุงร่างกาย เพื่อประโยชน์กับทุกคน
ดอกคำฝอย สมุนไพร สรรพคุณของคำฝอย
ดอกคำฝอย
ว่านชักมดลูก สมุนไพร
ว่านชักมดลูก
โด่ไม่รู้ล้ม สมุนไพร สรรพคุณของโด่ไม่รู้ล้ม
ว่านโด่ไม่รู้ล้ม
หมามุ่ย สมุนไพร สรรพคุณหมามุ่ย
หมามุ่ย