โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ถ่ายเป็นเลือด ท้องผูกบ่อย ท้องเสียบ่อย

มะเร็งลำไส้ใหญ่ หากมีอาการท้องเสียหรือท้องผูกแบบเรื้อรัง ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย อาจเป็นอาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ สาเหตุและการรักษาทำอย่างไรมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคทางเดินอาหาร โรคไม่ติดต่อ โรคมะเร็ง

โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ( colon cancer ) คือ ภาวะการเกิดเนื้อร้ายที่ลำไส้ใหญ่ ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของระบบทางเดินอาหาร และ อวัยวะเกี่ยวกับการดูดซึมสารอาหารเพื่อไปเลี้ยงร่างกายมีปัญหา โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆของประชากรไทย ซึ่งพบว่าอัตราการเกิดโรคเพศชายมากกว่าเพศหญิง และ พบมากในคนอายุ 55 ปีขึ้นไป

สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

สำหรับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ยังไม่สามารถทราบสาเหตุการเกิดโรคที่ชัดเจนได้ แต่เกิดจากปัจจัยต่างๆที่กระทบต่อลำไส้ใหญ่ ซึ่งเราสามารถสรุปปัจจัยที่อาจส่งผลให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้ดังนี้

  • ความผิดปรกติของเนื้อเยื่อร่างกาย การกลายพันธุ์ของยีนจนไม่สามารถควบคุมการทำงานของเซลล์ร่างกาย จนเกิดการเจริญเติบโตเป็นเซลล์มะเร็ง
  • พฤติกรรมการรับประทานอาหาร ที่นิยมรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และ มีกากใยอาหารต่ำ
  • พันธุกรรม ในผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
  • อายุ คนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีโอกาศเกิดโรคนี้สูง
  • การอักเสบของลำไส้แบบเรื้อรัง
  • การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์

อาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

สำหรับอาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ จะแสดงให้เห็นถึงความผิดปรกติภายในช่องท้อง และ ระบบขับถ่าย ซึ่งสามารถสรุปลักษณะของอาการผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้ดังนี้

  • ระบบขับถ่ายทำงานผิดปรกติ เช่น ท้องผูก หรือ ท้องเสีย ซึ่งเป็นแบบเรื้อรังไม่หายขาด
  • อุจจาระผิดปรกติ โดยอุจจาระเป็นเลือด และ รู้สึกถ่ายอุจจาระไม่สุด ปวดอุจจาระบ่ายๆ
  • มีอาการปวดท้อง แน่นอึดอัดเหมือนมีแก๊สในท้อง
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
  • น้ำหนักตัวลงโดยไม่มีสาเหตุ ทั้งๆที่รับประทานอาหารได้ปรกติ

ระยะของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ จะแสดงอาการของโรคเป็น 4 ระยะ และ จะเพิ่มความรุนแรงของโรคมากขึ้นเรื่อยๆ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มี 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ถึงระยะที่ 4 รายละเอียด ดังนี้

  • มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะแรก ในระยะนี้มีก้อนเนื้อขนาดเล็ก แต่ยังไม่ลุกลามที่ถึงผนังสำไส้ ซึ่งหากตรวจพบมะเร็งในระยะนี้โอกาสหายได้ถึง ร้อยละ 75 ถึง 80
  • มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่สอง ในระยะนี้จะมีก้อนเนื้อลุกลามออกมาถึงเยื่อหุ้มชั้นนอกผนังลำไส้ ซึึ่งหากตรวจพบมะเร็งในระยะนี้ มีโอกาสการรักษาให้หายได้ถึง ร้อยละ 40 ถึง 70
  • มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่สาม ในระยะนี้เซลล์มะเร็งลุกลามไปที่ระบบน้ำเหลือง ที่อยู่ใกล้ลำไส้ใหญ่ ซึึ่งหากตรวจพบมะเร็งในระยะนี้ มีโอกาสการรักษาให้หายได้ถึง ร้อยละ 20 ถึง 60
  • มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะสุดท้าย ในระยะนี้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายทั่วร่างกายผ่านระบบน้ำเหลืองและระบบเลือด ซึึ่งหากตรวจพบมะเร็งในระยะนี้ มีโอกาสการรักษาให้หายได้ถึง ร้อยละ 10

การวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

สำหรับแนวทางการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ สามารถตรวจได้โดยการตรวจชิ้นเนื้อ การส่องกล้องตรวจ และ การเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์เพื่อดูช่องท้อง

การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่

สำหรับแนวทางการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีหลายวิธีซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ หากตรวจพบเซลล์มะเร็งเร็ว โดยการรักษาใช้การผ่าดัด ร่วมกับการทำเคมีบำบัด และ การฉายแสง รายละเอียด ดังนี้

  • การผ่าตัด เป็นวิธีการรักษาของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซี่งแพทย์จะตัดชื้นเนื้อส่วนที่เป็นมะเร็งออก
  • การรักษาด้วยเคมีบำบัด ( Chemotherapy ) หรือ คีโม เป็นการใช้ยารับประทานเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตและทำลายเซลล์มะเร็งในร่างกาย ซึ่งการคีโมจะใช้รักษาหลังการผ่าตัด
  • การฉายรังสี ( Radiation Therapy ) โดยการฉายรังสีเข้าไปบริเวณที่มีก้อนมะเร็ง เพื่อช่วยลดขนาดของก้อนเนื้องอกเล็กลงวิธีนี้จะใช้รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ควบคู่กับการรักษาด้วยเคมีบำบัด

ผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

สำหรับการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ อาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีดังนี้

  • อาการผมร่วง ตัวซีด คลื่นไส้อาเจียน
  • มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ แผลจะหายช้า และ ติดเชื้อโรคได้ง่าย
  • เกิดการระคายเคืองผิวหนังบริเวณช่องท้อง
  • ส่งผลโดยตรงต่อการขับถ่าย เนื่องจากลำไส้ใหญ่ถูกตัดให้สั้นลง

การป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทางการแพทย์ไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคที่ชัดเจน ซึ่งสิ่งที่สามารถทำได้ คือ การหลีกเลี้ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคที่เราสามารถควบคุมได้ โดยแนวทางการป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีดังนี้

  1. ขับถ่ายให้เป็นเวลา
  2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง
  3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  4. พักผ่อนให้เพียงพอ
  5. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
  6. พยายามหลีกเลี่ยงความเครียด หากิจกรรมต่างๆเพื่อทำให้ไม่เครียด

โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ หากมีอาการท้องเสียหรือท้องผูกแบบเรื้อรัง ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย อาจเป็นอาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ สาเหตุของโรคนี้เกิดจากอะไร แนวทางการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ มีอะไรบ้าง

Last Updated on March 18, 2021