ภูมิแพ้ผิวหนัง ( Atopic dermatitis ) ความผิดปรกติของผิวหนัง เกิดจากอาการแพ้สิ่งระคายเคืองต่างๆ ทำให้เกิดผดผื่น คันตามผิวหนัง ภูมิต้านทาน สาเหตุ อาการ การรักษา

ภูมิแพ้ผิวหนัง โรคภูมิแพ้

ภูมิแพ้ผิวหนัง คือ โรคอะไร ทำไมถึงเป็นโรคนี้ อาการที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง การตรวจวินิจฉัยโรคทำอย่างไร การรักษาทำอย่างไร สามารถป้องกันโรคนี้ได้ไหม บทความนี้จะเสนอให้ทราบ

ภูมิแพ้ผิวหนัง ( Atopic dermatitis ) คือ ภาวะความผิดปรกติของผิวหนัง เกิดจากอาการแพ้สิ่งระคายเคืองต่างๆรอบตัว ส่งผลให้เกิดอาการ ผดผื่น คันตามผิวหนัง โรคเกี่ยวกับภูมิตานทาน และ โรคผิวหนัง เป็นโรคที่ เกิดโดยไม่รู้ตัว และ ไม่ทราบสาเหตุ สามารถเกิดได้ทั้งบริเวณ ผิวของใบหน้า และ ลำตัว มักจะเกิดรวมกับ

โรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ เช่น แพ้อากาศ โรคหอบหืด ซึ่ง โรคเหล่านี้ จะมีความเกี่ยวข้องกับ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่ตอบสนองต่อ สิ่งเร้าต่างๆ ที่อยู่ในอากาศ ได้ไวกว่าปกติ จะทำให้เกิด อาการแพ้ ขึ้นทันที เนื่องจาก ผิวหนัง เป็นด่านแรก ที่สำคัญ ของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ทำหน้าที่ปกป้อง ร่างกานทั้งหมด  จากเชื้อโรค ความร้อน ความเย็น พิษของสัตว์ ผิวหนังทำงานร่วมกับ ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ระบบประสาทรับความรู้สึก จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ผู้ป่วยต้อง จะนิ่งนอนใจไม่ได้ หากเกิดอาการผิดปกติใดๆ

สาเหตุการเกิดโรคภูมิแพ้ผิวหนังมีอะไรบ้าง?

  • อากาศ มลภาวะ สารโหละหนัก ในอากาศ โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง อากาศที่เย็นขึ้น จะทำให้ผื่นกำเริบ
  • พันธุกรรม เป็นสาเหตุ ที่สำคัญ ขอโรคระบบภูมิแพ้ทั้งหมด เพราะ เป็นตัวกำหนด ระบบภูมิต้านทานภายในร่างกาย ให้มีความมากน้อยแตกต่างกันในแต่บุคคล พบว่า หากคนในครอบครัว เป็นภูมิแพ้ผิวหนัง โอกาสที่จะเป็นมีมากถึง 70%
  • ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ เมื่ออายุมากแล้ว 35 ปีขึ้นไป พบว่า มีโอกาสสูงที่ลูกในครรภ์ จะเป็น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง
  • ได้รับสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ หลายชนิด ในอากาศ อย่างเช่น ละอองของเกสรดอกไม้ หรือ ไรฝุ่น
  • การซักเสื้อผ้าไม่สะอาด เพราะ เสื้อผ้าสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง หากซักไม่สะอาด ก็จะมีสิ่งสกปรก หรือ สิ่งเร้าต่อระบบภูมิต้านทาน เป็นเหตุให้เกิดโรคภูมิแพ้ผิวหนังได้ อีกทั้ง หากผงซักฟอกตกค้าง คนที่แพ้ผงซักฟอก ก็อาจจะเป็นโรคนี้ได้
  • เกิดจากเหงื่อ เพราะ ในเหงื่อ มีไขมัน เกลือแร่ ปะปนอยู่ หาก ไม่ทำความสะอาดร่างกาย เสื้อผ้า ก็จะทำให้เกิด เชื้อรา เชื้อโรคต่างๆ ที่เป็นโทษต่อผิวหนังสะสม เกิดการแพ้ที่ผิวหนังได้
  • อาหารและเครื่องดื่ม อย่างเช่น ถั่ว แอลกอฮอล์ นมวัว ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ควรหมั่นสังเกตุตนเอง ว่ารับประทานอะไรแล้วเกิด อาการระคายเคืองที่ผิวหนัง
  • การพักผ่อนน้อย ไม่เพียงพอ ขาดการออกกำลังกาย ส่งผลให้ ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และ ไม่มีแรงต้านทาน ต่อ สิ่งเร้ากระตุ้นระบบภูมิต้านทาน
  • การเกา เมื่อเจอสิ่งระคายเคือง ผู้ป่วยมักจะเกา เป็นการทำลายผิวหนังชั้นนอก ทำให้สิ่งระคายเคือง ฝังตัวในผิวหนังขั้น กลาง หรือ ชั้นใน กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิด อาการแพ้ มากยิ่งขึ้น

ลักษณะอาการของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ผิวหนังเป็นอย่างไร?

  • มีผื่นขึ้นขึ้นบริเวณมือ หลังมือ ปลายมือ เกิดง่าย และ เป็นบ่อยจนผิดปกติ
  • ใต้ตาคล้ำ เพราะ เกิดจากการเป็นรอยพับ ที่มาจากตาที่ และ จะขยี้ตาบ่อยๆ จนเกิดริ้วรอยใต้ตา
  • ผื่นขึ้นตาม ง่ามแขน ง่ามขา ข้อพับต่างๆ
  • บริเวณหน้าจะเป็นผื่นสีอ่อนกว่าสีผิวจริง มักพบบ่อยบริเวณแก้ม สีจะแตกต่างจากสีผิวหน้า อย่างเห็นได้ชัด
  • ผิวเกิดการอักเสบ และ จะคันมาก เพราะ ว่าผิวสูญเสียความชุ่มชื่น มีขุยสีขาว คล้ายๆรังแค แต่จะหนากว่า และ ใหญ่หว่า
  • ในบางราย ผิวอักเสบ และ คัน ถ้าเกาบริเวณที่คัน อาจจะเลือดไหลได้ แสบ แดง เพราะ ผิวไม่แข็งแรง
  • เกิดเป็นผื่นคัน เป็นตุ่มน้ำ จะเป็นจุดแดงๆ เกิดขึ้นบริเวณต่างๆ ตามลำตัว อาการนี้แสดง ว่าเกิดการแพ้ขั้นรุนแรง

เราวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ผิวหนังอย่างไร?

  • แพทย์จะซักประวัติการรักษา โรคประจำตัว ประัติการแพ้อาหาร และ สอบถามอาการผิวหนังอย่างละเอียด
  • สอบถามประวัติ คนในครอบครัวว่ามีประวัติ อาการทางผิวหนัง
  • ตรวจร่างกาย ผิวหนัง ตรวจแบบ Patch Test เพื่อ ที่จะตรวจหา สารโลหะ หรือ สารเคมี ที่แพ้
  • ประเมินการรักษา ดูจาก สาเหตุ ระดับความรุนแรง และ สิ่งเร้าที่แพ้

เรารักษาโรคภูมแพ้ผิวหนังอย่างไร?

  • ผิวหนังที่อักเสบเรื้อรังนั้น แพทย์จะใช้ยาที่ไม่มีสเตียรอยด์ในการทา และ จะให้กินยาแก้แพ้ เพื่อควบคุมอาการแพ้ เบื้องต้น
  • หากมีอาการอักเสบแบบรุนแรง แพทย์จะใช้วิธี การฉายแสงอัลตร้าไวโอเลต เพื่อ ที่จะเข้าไปกดภูมิในร่างกาย ไม่ให้ไวต่อสภาพสิ่งแวดล้อม โดยจะคอยดูอาการตอบสนอง สามารถใช้วิธีนี้ร่วมกับยาแก้แพ้
  • ระยะที่เฉียบพลันนั้น ที่มีตุ่มน้ำ และ น้ำเหลือง ควรจะใช้ผ้าพันแผลชุบกับน้ำเกลือที่สะอาด จากนั้นเอาไปประกบแผล ให้น้ำเหลืองแห้ง แล้ว ทายาสเตียรอยด์ เมื่อหายแล้ว ควรหยุดยา ไม่ควรซื้อยามาทาเอง ควรปรึกษาแพทย์ หรือ เภสัชกรก่อน เพราะยานั้นอาจจะมีผลข้างเคียง

เราสามารถป้องกันและรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้อย่างไร ?

  • หลังอาบน้ำควรจะปล่อยตัวให้แห้ง หรือ ใช้ผ้าขนหนูเช็ด ห้ามถูแรง หรือ ขัดเป็นอันขาด
  • ควรดูแลสุขอนามัย ใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ซักล้างให้สะอาด อย่าให้มีผงซักฟอกตกค้าง
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 140 นาทีต่อสัปดาห์ หรือ 3 วัน ต่อสัปดาห์ แต่ละครั้งที่ออกกำลังกาย รู้สึกว่าหอบแฮกๆ จากนั้น หยุดพัก และ ทำใหม่ไปเรื่อยๆ อย่างน้อย 30 นาที
  • ตัดเล็บให้สั้น เพื่อ ป้องกันการเกา ไม่ให้เป็นแผล และ ติดเชื้อ เพราะ จะทำให้การรักษายากยิ่งขึ้น
  • ป้องกันไรฝุ่นในที่นอน ควรจะซักผ้าปูที่นอนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  • ทาโลชั่นให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว เป็นประจำหลังอาบน้ำ
  • ไม่รับประทานอาหารที่รู้ตนเองแพ้ หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้แพ้
  • หากอยู่ใกล้แหล่งมลพิษต่างๆ ควรออกจากพื้นที่นั้น

แหล่งอ้างอิง

  • allergy ใน พจนานุกรมศัพท์การแพทย์ดอร์แลนด์
  • Overview of ‘allergy and allergic diseases: with a view to the future’

Fongza.com เว็บไซต์ที่ทำเนื้อหาเกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านสุขภาพ โดยเราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีต้องดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เนื้อหาของเราจึงประกอบด้วย โรคต่างๆ การรักษาโรค สมุนไพร การเลี้ยงลูก แม่และเด็ก การออกกำลังกาย ความสวยความงาม โหงวเฮ้ง และ อาหารสุขภาพ โดยเน้นการให้ความรู้ ไม่ได้มีเจตนาให้คำวินิจฉัยการรักษาโรค การที่ท่านนำเนื้อหาของเราไปใช้ประโยชน์ให้ปรึกษาผู้เชียวชาญก่อน หากป่วยให้เข้ารับการรักษากับแพทย์เท่านั้น

ขอบคุณท่านผู้สนับสนุนการทำเนื้อหา ทรัพทย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบ ถุงกระสอบสำหรับงานขนย้ายต่างๆ ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก ถุงราคาถูกที่ใครๆก็จับต้องได้

ไข้กาฬหลังแอ่น ไข้สูงอย่างกระทันหัน ตัวแดงเป็นผื่น เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย อันตรายหากรักษาไม่ทัน ทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ รักษาอย่างไร

ไข้กาฬหลังแอ่น โรคติดต่อ โรคติดเชื้อ

ไข้กาฬ หมายถึง โรคที่มีความรุนแรงที่มีผื่นสีดำขึ้นตามร่างกาย ส่วนคำว่า หลังแอ่น หมายถึง การอาการหลังแข็งเกร็ง มีอาการชัก

โรคไข้กาฬหลังแอ่น ( Meningococcal Meningitis ) ภาวะติดเชื้อแบคทีเรียไนซีเรีย เมนิงไจทิดิส ( Neisseria meningitides ) เป็นเชื้อโรคที่สามารถติดต่อกันได้จากการสัมผัสสารคัดหลังของคนที่มีเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นการจาม การไอ ซึ่งโรคไข้กาฬหลังแิอ่นมักพบ 2 ลักษณะ คือ คือ ไข้กาฬหลังแอ่นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และ ไข้กาฬหลังแอ่นติดเชื้อในกระแสเลือด

  • ไข้กาฬหลังแอ่นติดเชื้อในกระแสเลือด เกิดจากเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายและแพร่เข้าสู่กระแสโลหิต เมื่อเชื้อโรคเจือปนในเลือดและไหลเวียนไปตามอวัยวะต่างๆของร่างกาย ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและปวด ซึ่งลักษณะอาการค่อนข้างรุนแรง
  • ไข้กาฬหลังแอ่นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นภาวะต่อจากการติดเชื้อในการแสเลือด เมื่อเชื้อโรคไหลเวียนเข้าสู่สมอง ทำให้เยื่อหุ้มสมองเกิดการติดเชื้อ ทำให้สมองอักเสบ ส่งผลถึงกระดูกสันหลังด้วย

ไข้กาฬหลังแอ่นในประเทศไทย

สถานการณ์โรคไข้กาฬหลังแอ่นในประเทศไทย มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้กาฬหลังแอ่นทุกปี ซึ่งในช่วงปี พ.ศ. 2536 – 2552 มีรายงานผู้ป่วย 15 ถึง 74 รายต่อปี โรคนี้ไม่มีรูปแบบของการเกิดโรคตามฤดูกาลที่ชัดเจน โรคนี้สามารถเกิดได้กับคนทุกกลุ่มอายุ แต่มักพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเด็กที่อายุตํ่ากว่า 5 ปี มักพบในกลุ่มคนที่อาศัยอยู่รวมกันอย่างหนาแน่นและแออัด สุขอนามัยไม่ดีนัก

สาเหตุของโรคไข้กาฬหลังแอ่น

โรคไข้กาฬหลังแอ่น เกิดจากร่างกายติดเชื้อแบคทีเรียไนซีเรีย เมนิงไจทิดิส ( Neisseria meningitides ) ซึ่งสามารถถ่ายทอดสู่คนอื่นๆได้ จากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ที่เป็นพาหะนำโรคผ่านระบบทางเดินหายใจ จากการไอ การจาม การสัมผัสเสมหะ สัมผัสน้ำมูก สัมผัสน้ำลาย เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคไข้กาฬหลังแอ่น มีดังนี้

  • การอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยที่เป็น โรคกาฬหลังแอ่น จะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ เพราะ สูดอากาศ และ เอาเชื้อแบคทีเรียที่มันกระจายอยู่ในละอองเสมหะ หรือ แม้กระทั่งน้ำลายของผู้ป่วย เมื่อจาม ไอ
  • การอยู่ใกล้แหล่งที่มีผู้ป่วย และ อยู่ในสถานที่แออัด ทำให้เชื้อแพร่กระจายง่าย
  • การใช้ของใช้ร่วมกับ ผู้ป่วย หรือ ผู้ที่มีพาหะ เช่น แก้ว ผ้าเช็ดหน้า แปรงสีฟัน

อาการของโรคไข้กาฬหลังแอ่น

เมื่อร่างกายได้รับเชื้อแบคทีเรียไนซีเรีย เมนิงไจทิดิส ( Neisseria meningitides ) เข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวของโรคโดยเฉลี่ย 3 – 4 วัน ซึ่งโรคไข้กาฬหลังแอ่น จะมีลักษณะอาการที่สำคัญ อย่าง คือ มีไข้ มีผื่น และ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ 

ลักษณะอาการทั่วไป ผู้ป่วยมักจะมีไข้ประมาณ 2-3 วันและมีผื่นขึ้น ลักษณะเป็นจ้ำเลือดคล้ายกับอาการฟกช้ำ ลักษณะผื่นมีรูปคล้ายดาวกระจาย มักเกิดผื่นบริเวณลำตัวส่วนล่าง ขาและเท้า หากมีภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะรุนแรง อาเจียน คอแข็ง ผู้ป่วยจะค่อยๆซึมลง และไม่ค่อยรู้สึกตัว หากเกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบอาจทำให้การเสียชีวิตได้

การรักษาโรคไข้กาฬหลังแอ่น

สำหรับการรักษาโรคไข้กาฬหลังแอ่น เมื่อแพทย์ตรวจเลือดและพบเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรค สามารถใช้การรักษาด้วยการใช้ยาปฎิชีวนะ เพื่อไปฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และรักษาด้วยการประคับประคองตามอาการอื่นๆ เพื่อบรรเทาอาการของผู้ป่วย

การป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น

แนวทางการป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น 2 วิธีหลัก คือ การฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโรคและการฉีดยาต้านจุลชีพ ซึ่งนอกจากนั้นสามารถป้องกันโรคได้อย่างง่ายด้วยตนเอง คือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย ดูแลความสะอาดของร่างกาย ไม่เอาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่มีโอกาสในการติดเชื้อโรค แนวทางการปฏิบัติตนให้ห่างไกลโรคไข้กาฬหลังแอ่น มีดังนี้

  • ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับ ผู้อื่น หรือ ผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ตาม
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ
  • เมื่อจำเป็นต้องเข้าใกล้ผู้ป่วยให้สวมหน้ากากอนามัย หรือ ใช้ถุงมือยางเมื่อต้องสัมผัส
  • เมื่อทราบว่าตนเอง หรือ บุตรหลาน เป็นไข้สูง ให้รีบพบแพทย์
  • ดูแที่อยู่อาศัยให้สะอาด ถูกสุขลักษณะ

Fongza.com เว็บไซต์ที่ทำเนื้อหาเกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านสุขภาพ โดยเราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีต้องดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เนื้อหาของเราจึงประกอบด้วย โรคต่างๆ การรักษาโรค สมุนไพร การเลี้ยงลูก แม่และเด็ก การออกกำลังกาย ความสวยความงาม โหงวเฮ้ง และ อาหารสุขภาพ โดยเน้นการให้ความรู้ ไม่ได้มีเจตนาให้คำวินิจฉัยการรักษาโรค การที่ท่านนำเนื้อหาของเราไปใช้ประโยชน์ให้ปรึกษาผู้เชียวชาญก่อน หากป่วยให้เข้ารับการรักษากับแพทย์เท่านั้น

ขอบคุณท่านผู้สนับสนุนการทำเนื้อหา ทรัพทย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบ ถุงกระสอบสำหรับงานขนย้ายต่างๆ ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก ถุงราคาถูกที่ใครๆก็จับต้องได้

ถุงกระสอบ ถุงล้อลาก ถุงสายรุ้ง ถุงการ์ตูน
ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove

สมุนไพรน่ารู้

คนทั่วไปมักเข้าใจว่าสมุนไพร คือ พืชที่สามารถนำมาทำเป็นยาเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว สมุนไพรนั้นหมายรวมถึง สัตว์ หรือ แร่ธาตุจากธรรมชาติด้วย เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่สามารถใช้รักษาโรคและบำรุงร่างกาย เพื่อประโยชน์กับทุกคน
ดอกคำฝอย สมุนไพร สรรพคุณของคำฝอย
ดอกคำฝอย
ว่านชักมดลูก สมุนไพร
ว่านชักมดลูก
โด่ไม่รู้ล้ม สมุนไพร สรรพคุณของโด่ไม่รู้ล้ม
ว่านโด่ไม่รู้ล้ม
หมามุ่ย สมุนไพร สรรพคุณหมามุ่ย
หมามุ่ย