แผลริมอ่อน ซิฟิลิสทียม มีบาดแผลบริเวณอวัยวะเพศ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ตกขาวผิดปรกติ ขาหนีบบวมโต สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการรับประทานยาปฏิชีวนะ

แผลเริมอ่อน ซิฟิลิสเทียม โรคติดเชื้อ โรคติดต่อ

แผลริมอ่อน ทางการแพทย์เรียก Chancroid หรือ Soft chancre หรือ Ulcus molle หรือ Weicher Schanker เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Haemophilus Ducreyi ลักษณะอาการมีแผลบริเวณอวัยวะเพศ ต่อมาจะพบต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบบวมโต แต่สามารถรักษาให้หายได้โดยการใช้ยาปฏิชีวนะ ลักษณะอาการของโรคนี้คล้ายโรคซิฟิลิส แต่จะต่างกันตรงที่แผลเริมอ่อนจะมีอาการเจ็บปวดที่แผล แต่โรคซิฟิลิสจะไม่เจ็บปวดที่แผล โรคนี้เกิดได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิงโรคนี้ บางครั้งเรียกว่า โรคซิฟิลิสเทียม

การวินิจฉัยโรคแผลเริมอ่อนหรือโรคซิฟิลิสเทียมนี้ ต้องตรวจให้แน่ชัด เนื่องจากลักษณะอาการของโรคคล้ายกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หลายโรค เช่น โรคเริม โรคซิฟิลิส โรคฝีมะม่วง เป็นต้น

สาเหตุการเกิดโรคแผลริมอ่อน 

โรคแผลเริมอ่อนเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียฮีโมฟิลุสดูเครย์ ( Haemophilus ducreyi ) ซึ่งเชื้อโรคที่อยู่ที่หนองซึ่งเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนังระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ นอกจากการสัมผัสเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์แล้วยังสามารถติดต่อได้โดยการปนเปื้อนหนองไปถูกแผลอื่นๆ เช่น การสัมผัสเนื้อเยื่ออ่อนๆของผู้มีเชื้อโรค การทำออรัลเซ็กซ์โดยมีบาดแผลที่ปาก มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เป็นต้น

อาการของโรคแผลริมอ่อน 

ลักษณะอาการของโรคแผลเริมอ่อน มีระยะฟักตัวของโรคประมาณ 4 ถึง 7 วัน ซึ่งจะเริ่มแสดงอาการที่อวัยวะเพศ เริ่มมีตุ่มนูนและมีอาการเจ็บบริเวณอวัยวะเพศ หลังจากนั้นจะมีแผลเล็กๆ บริเวณแคมเล็กของฝ่ายหญิงหรือบริเวณปลายองคชาตของฝ่ายชาย มีอาการปวดมาก ในเพศหญิงจะมีอาการตกขาวผิดปรกติ คือ ตกขาวมากกว่าปกติ มีกลิ่นแรง กลิ่นเหม็น มีอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ มีอาการขาหนีบบวมโต ลักษณะขาหนียบวมเหมือนลูกปิงปอง กดแล้วปวดมาก

การตรวจวินิจฉัยโรคแผลริมอ่อน 

สำหรับการวินิจฉัยโรคแผลเริมอ่อน เนื่องจากลักษณะอาการของโรคคล้ายกับหลายโรค เช่น โรคเริม โรคซิฟิลิส แต่ต้องตรวจเลือด และ ตรวจเชื้อแบคทีเรียให้แน่ชัด เพื่อการรักษาอย่างถูกต้อง

ภาวะแทรกซ้อนของแผลริมอ่อน

การไม่รักษาดรคอย่างทันท่วงทีอาจส่งผลต่อภาวะแทรกซ้อนของโรคได้ ซึ่งภาวะแทรกซ้อนของโรค คือ อาจให้เกิดภาวะแผลติดเชื้ออื่นๆซ้ำได้ เนื่องจากรอยแผลและภาวะร่างกายอ่อนแอ ทำให้การรับเชื้ออื่นๆง่ายขึ้น

การรักษาโรคแผลริมอ่อน 

แนวทางการรักษาโรคแผลริมอ่อน สามารถรักษาให้หายขาดได้ ด้วยการรับประทานยาปฏิชีวนะและปรับพฤติกรรมการดำรงค์ชีวิตที่สุ่มเสี่ยงการติดเชื้อโรคซ้ำซาก กรณีที่เกิดการอักเสบที่ต่อมน้ำเหลืองที่โคนขาหนีบต้องเจาะหนองออก ต้องรักษาโดยแพทย์เท่านั้น ห้ามทำเอง เพราะ เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค

การป้องกันโรคแผลเริมอ่อน

สำหรับการรักษาโรคเป็นการแก้ปัยหาที่ปลายเหตุ การป้องกันโรคเป้นสิ่งที่ดีที่สุด แนวทางการป้องกันการเกิดโรคแผลเริมอ่อน มีดังนี้ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย

  • ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรคนี้หรือมีบาดแผลบริเวณอวัยวะเพศ
  • ควรสวมถุงยางป้องกันทุกครั้งก่อนการมีเพศสัมพันธ์
  • ไม่สำส่อนทางเพศ
  • รักษาความสะอาดของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศ
  • ผู้ที่เป็นโรคควรงดการมีเพศสัมพันธ์ทุกรูปแบบ หรือในรายที่คาดว่าได้รับเชื้อควรงดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 10 วัน และไปพบแพทย์ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ

หูดหงอนไก่ เนื้องอกจากการติดเชื้อ HPV พบมากในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย สามารถเกิดซ้ำได้ หายเองได้ตามธรรมชาติ การรักษาหูดทำอย่างไร ป้องกันได้หรือไม่

หูดหงอนไก่ โรคติดเชื้อ โรคติดต่อ

หูดหงอนไก่ ภาษาอังกฤษ เรียก Condyloma Acuminata เป็นโรคโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแปปิโลมาไวรัส ( HPV ) ลักษณะของหูดมีลักษณะเป็นติ่งเนื้องอกอ่อนๆ มีสีเนื้อ ผิวขรุขระ ซึ่งรอยจาะเริ่มจากเล็กๆแล้วขยายตัวลุกลามใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วจน หูดลักษณะคล้ายหงอนไก่หรือดอกกะหล่ำ ซี่งหูดหงอนไก่ไม่ทำให้เสียชีวิตแต่ทำลายความมั่นใจในชีวิต พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายและมีโอกาสเป็นซ้ำได้บ่อย โดยส่วนใหญ่แล้วคนทั่วไปมีภูมิคุ้มกันโรคที่ดีหลังจากได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้ว มักจะไม่มีอาการใดๆ ซึ่งร้อยละ 80 ของผู้ติดเชื้อ เชื้อโรคเหล่านี้ก็จะถูกกำจัดออกไปได้เองภายใน 2 ปี โรคนี้ สามารถเรียกได้หลายโรค เช่น หงอนไก่ หูดอวัยวะเพศ หรือ หูดกามโรค เป็นต้น

สาเหตุโรคหูดหงอนไก่

โรคหูดหงอนไก่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแปปิโลมาไวรัส ( Human Papillomavirus : HPV ) เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก สามารถติดจากการสัมผัสคนที่มีเชื้อไวรัส HPV จากการมีเพศสัมพันธ์หรือกิจกรรมอื่นๆที่ต้องสัมผัสเชื้อโรค ซึ่งปัจจัยเสี่ยงต่างๆในการเกิดหูดหงอนไก่ คือ การสัมผัสเชื้อโรคจากคนที่มีเชื้อไวรัส HPVในร่างกาย

สาเหตุของการเกิดหูดหงอนไก่ส่วนมากเกิดจากการติดต่อทางการมีเพศสัมพันธ์ ประมาณร้อยละ 70 ของผู้ป่วยโรคนี้ มักพบได้ในกลุ่มวัยรุ่น สามารถถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้ในระหว่างการคลอด แต่ไม่สามารถติดจากการใช้สิ่งของร่วมกันได้ เช่น ห้องน้ำ ฝารองนั่ง สระว่ายน้ำ เป็นต้น

ระยะฟักตัวของโรคหูดหงอนไก่

โดยเฉลี่ยแล้วระยะการฟักตัวของโรคหูดหงอนไก่ ประมาณ 1 เดือน ถึง 2 ปี แต่โดยเฉลี่ยประมาณ 3 ถึง 4 เดือน ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันโรคของแต่ละคน ซึ่งระยะฟักตัวของโรคมักไม่แสดงอาการจนเชื้อไวรัสก็จะเกิดการแบ่งตัวจนส่งผลให้เกิดการผิดปกติของผิวหนัง

อาการโรคหูดหงอนไก่

สำหรับอาการของหูดหงอนไก่ ผู้ป่วยจะมี ติ่งเนื้อ ลักษณะคล้ายดอกกะหล่ำบริเวณอวัยวะเพศหรือทวารหนัก หูดหงอนไก่มีขนาดเล็กมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ทำให้เกิดระคายเคือง ไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บ หูดหงอนไก่พบทั้งภายในและภายนอกของอวัยวะเพศทั้งชาย และ หญิง ในกลุ่มของชายรักชายอาจพบหูดบริเวณรอบทวารหนัก จะมีลักษณะนูน ผิวคล้ายหงอนไก่

การรักษาโรคหูดหงอนไก่

แนวทางการรักษาหูดหงอนไก่ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การรักษาโรคหูดหงอนไก่มักจะทำก็ต่อเมื่อหูดสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ป่วย ซึ่งการรักษาใช้การรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งในปัจจุบันการผ่าตัดที่นิยมใช้การจี้ด้วยความเย็น การจี้ด้วยไฟฟ้า การผ่าตัดเพื่อตัดหูด และการรักษาด้วยเลเซอร์ ซึ่งอาจต้องรักษาซ้ำจนกว่าจะได้ผลน่าพึงพอใจ

แนวทางการวินิจฉัยโรคหูดหงอนไก่ ใช้การตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งหากสังเกตุเห็นหูดเกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศหรือทวารหนัก มักจะเป็นหูดหงอนไก่

การป้องกันโรคหูดหงอนไก่

แนวทางการป้องกันหูดหงอนไก่ที่ดีที่สุด คือ การป้องกันไม่สัมผัสกับผู้มีเชื้อไวรัสHPV ซึ่งหากต้องมีเพศสัมพันธ์ควรมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์

การดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคหูดหงอนไก่

  • หมั่นตรวจดูลักษณะของหูดที่อวัยวะเพศของตัวเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูความเปลี่ยนแปลงของหูด
  • งดกิจกรรมการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างการรักษา แต่หากจำเป็นก็ควรใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้ง
  • การดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด
ถุงกระสอบ ถุงล้อลาก ถุงสายรุ้ง ถุงการ์ตูน
ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove

สมุนไพรน่ารู้

คนทั่วไปมักเข้าใจว่าสมุนไพร คือ พืชที่สามารถนำมาทำเป็นยาเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว สมุนไพรนั้นหมายรวมถึง สัตว์ หรือ แร่ธาตุจากธรรมชาติด้วย เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่สามารถใช้รักษาโรคและบำรุงร่างกาย เพื่อประโยชน์กับทุกคน
ดอกคำฝอย สมุนไพร สรรพคุณของคำฝอย
ดอกคำฝอย
ว่านชักมดลูก สมุนไพร
ว่านชักมดลูก
โด่ไม่รู้ล้ม สมุนไพร สรรพคุณของโด่ไม่รู้ล้ม
ว่านโด่ไม่รู้ล้ม
หมามุ่ย สมุนไพร สรรพคุณหมามุ่ย
หมามุ่ย