ไข้ทับระดู อาการปวดท้องและมีไข้ระหว่างมีประจำเดือน เกิดขึ้นกับสตรีโดยทั่วไป บางคนปวดมาก บางคนปวดน้อย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าปวดท้องแบบไหนปรกติ แบบไหนไม่ปรกติ

ไข้ทับระดู โรคสตรี

คำว่า ระดู หมายถึง เลือดประจำเดือนของสตรี

ไข้ทับระดู ( Period Flu ) คือ อาการมีไข้ระหว่างมีประจำเดือน ผู้หญิงในช่วงที่มีประจำเดือน ร่างกายจะอ่อนแอลง เนื่องจากการขับเลือดของร่างกาย ภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อน้อยลง ช่วงมีประจำเดือนทำให้มีโอกาสติดเชื้อจึงง่ายกว่าปกติ ไข้ทับระดูในอดีต อาจดูเป็นโรคน่ากลัวสำหรับผู้หญิง แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีการแพทย์ทันสมัย ควมรุนแรงของโรคน้อยลงมาก

ประเภทของไข้ทับระดู

สำหรับการแบ่งประเภทของโรคไข่ทับระดู มี 2 ประเภท คือ ไข้ทับระดูที่ไม่มีภาวะอื่นแอบแฝง และ ไข่ทับระดูที่มีภาวะโรคแอบแฝง โดยรายละเอียด มีดังนี้

  •  ไข้ทับระดูที่ไม่มีสภาวะอื่นแอบแฝง ลักษณะมีอาการคล้ายกับไข้หวัด อ่อนเพลีย สามารถรับประทานยาลดไข้เพื่อบรรเทาอาการได้
  •  ไข้ทับระดูที่มีภาวะโรคแอบแฝง ลักษณะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดหลัง ปวดท้องน้อย คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีตกขาวผิดปรกติร่วมด้วย

สาเหตุของโรคไข้ทับระดู

สำหรับสาเหตุของการเกิดอาการไข้ทับระดู ผู้ป่วยบางรายอาจจะเป็นไข้หวัดธรรมดาและไม่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต แต่สำหรับสาเหตุอื่นๆ สามารถสรุปสาเหตุต่างๆได้ดังนี้

  • ภาวะการติดเชื้อแบบเฉียบพลัน อาจเกิดจาก เชื้อหนองใน หรือ เชื้อคลามัยเดีย
  • ภาวะหลังคลอดของผู้ป่วยบางคน มักจะเกิดจาก ตัวของเชื้อแบคทีเรียที่มีอยู่ เป็นปกติวิสัยในช่องคลอดกระตุ้นให้ เชื้อโรคนั้นเจริญขึ้น จนเกิดเป็นโรคได้
  • อาจเกิดจากการแปดเปื้อนเชื้อโรคจากภายนอกช่องคลอด เข้าไปสู่ช่องคลอด และ มดลูกได้
  • อาจเกิดจากการทำแท้ง ซึ่งจะทำให้เชื้อกระจายตัวเข้าไปในมดลูก และเกิดการอักเสบ ที่เรียกกันว่า การทำแท้งติดเชื้อ

อาการของไข้ทับระดู

สำหรับอาการผู้ป่วยไข่ทับระดู ผู้ป่วยมักจะมีอาการที่ไข้ขึ้นสูง ปวดท้องน้อย ลักษณะบิดๆ หากไม่มีอาการผิดปรกติมาก อาการปวดท้องจะค่อยๆหายไปเอง หากมีลักษณะอาการผิดปรกติ เช่น อาการตกขาวเป็นหนองและจะมีกลิ่นที่แรงมาก เหม็นมาก อาการปวดหลังแบบรุนแรง คลื่นไส้และอาเจียน ประจำเดือนออกมามากและมีกลิ่นเหม็น จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุของการเกิดโรค

การรักษาไข้ทับระดู

แนวทางการรักษาโรคไข้ทับระดู เราแบ่งแนวทางการรักษาตามประเภทของไข้ทับระดู โดยรายละเอียด มีดังนี้

  • ไข้ทับระดูที่ไม่มีสภาวะโรคอื่นแอบแฝง ไข้ทับระดูสามารถรักษาตามอาการได้ทันที ถ้ามีอาการปวดศีรษะ ตัวร้อน และปวดท้องน้อย ก็ให้ใช้ยาแก้ปวดลดไข้ ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาแก้ปวดประจำเดือนตามปกติ สามารถดื่มน้ำอุ่นเพื่อขับพิษไข้ ระบายออกมาทางเหงื่อและปัสสาวะ หรือใช้ถุงน้ำร้อนประคบที่ท้องเพื่อให้เลือดประจำเดือนขับออกมาได้คล่องตัวขึ้น นอกจากนี้ ควรดูแลทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยการเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
  • ไข้ทับระดูที่มีสภาวะโรคอื่นแอบแฝง หากมีอาการของไข้ทับระดูชนิดนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อสอบถามซักประวัติผู้ป่วย ประวัติการใช้ยา รวมถึงประวัติการมีเพศสัมพันธ์

ภาวะแทรกซ้อนของไข้ทับระดู

  • อาจจะก่อให้เกิดฝีในรังไข่ หรือ บริเวณท่อรังไข่ ซึ่งมันจะทำให้เป็นแผลเป็น และ เกิดการเป็นหมันได้
  • จะมีโอกาสเกิด การตั้งครรภ์นอกมดลูกถึง 50%
  • จะเกิด อาการเจ็บปวด เมื่อเวลาที่มี เพศสัมพันธ์

การป้องกันการเกิดไข้ทับระดู

  • ควรเลี่ยง การสวนล้างช่องคลอด เป็นเวลา 6 เดือน หลังจากตลอดบุตร
  • สำหรับคนที่ยังไม่พร้อมมีบุตร ควรจะเลี่ยง การทำแท้งด้วยตัวเอง หรือ ใช้อุปกรณ์ที่สกปรกใน การทำแท้ง
  • ออกกังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อ ให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย
  • ถ้าหากคิดว่าติด เชื้อหนองใน จากคนรัก ควรจะรีบปรึกษาแพทย์ ก่อนที่เชื้อจะลุกลาม และ จะทำให้ ปีกมดลูดอักเสบได้

พยาธิในช่องคลอด ทริโคโมแนส โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พบมากในผู้หญิง คันในช่องคลอด แสบตอนปัสสาวะ ตกขาวผิดปกติ ตกขาวสีเหลืองเขียว มีกลิ่นเหม็น รักษาอย่างไร

พยาธิช่องคลอด โรคติดต่อ โรคติดเชื้อ

พยาธิในช่องคลอด ( Trichomoniasis หรือ Trich ) โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย ซึ่งพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัว Trichomonas vaginalis  โรคนี้ผู้ป่วยส่วนมากไม่แสดงอาการ และจะแสดงอาการเพียลร้อยละ 30 โรคนี้ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ควรรีบรักษา เพราะสามารถติดต่อสู่คู่นอนได้

ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมีหลายปัจจัย ที่สำคัญคือ การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อโรค ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงในการติดโรคนี้ ได้แก่ เปลี่ยนคู่นอนบ่อย คนที่มีประวัติในการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ คทที่มีประวัติในการเป็นโรคพยาธิในช่องคลอดมาก่อน และ คนที่ใช้สิ่งของร่วมกับคนที่มีเชื้อโรค

โรคพยาธิช่องคลอดไม่ได้เกิดกับเพศหญิงเท่านั้น สามารถเกิดกับเพศชายได้ ซึ่งเพศชายหากติดเชื้อจะมีอาการแสบเมื่อปัสสาวะ อาการคัน ระคายเคือง ที่ปลายอวัยวะเพศ เพราะ ติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะ เป็นโรคที่ไม่อันตราย ถึงกับทำให้เสียชีวิต แต่จะกระทบการดำรงชีวิตมาก เพราะ จะมีความรำคาญใจ ส่งผลต่อ สุขภาพจิตของผู้หญิง และ ผู้ชาย ที่ได้รับเชื้อ และยังสามารถเป็นพาหะ นำเชื้อไปติดผู้อื่นต่อได้อีกด้วย

สาเหตุของการเกิดโรคพยาธิในช่องคลอด

สาเหตุของโรคนี้มาจากการติดเชื้อโปรโตซัว Trichomonas vaginalis ซึ่งสามารถติดได้จากการมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ป้องกัน (การสวมถุงยาอนามัย) การมีเพศสัมพันธ์ ทางปาก ทวารหนัก ไม่รักษาความสะอาด ในจุดซ่อนเร้น และสุขภาพโดยรวมอ่อนแอ ขาดการออกกำลังกาย รับประทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ไม่ครบ 5 หมู่

อาการผู้ป่วยโรคพยาธิในช่องคลอด

อาการของโรคพยาธิในช่องคลอดนั้นจะแสดงอาการที่อวัยวะเพศและจุกซ่อนเร้น มีอาการตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงอาการอักเสบขั้นรุนแรง ผู้ป่วยบางรายจะแสดงอาการป่วยต่างๆภายใน 28 วันหลังจากได้รับเชื้อติดเชื้อ บางรายแสดงอาการหลังจากนั้นและบางรายอาจมีอาการแบบเป็นๆหายๆ ได้ ซึ่งอาการต่างๆ สามารถแสดงได้ดังนี้

  • ตกขาวผิดปรกติ ตกขาวเป็นสีเหลือง สีเขียวหรือสีเทา
  • มีกลิ่นเหม็นมาจากช่องคลอด
  • มีอาการคัน และแสบภายในช่องคลอดหรือบริเวณช่องคลอด
  • ปวดเวลามีเพศสัมพันธ์
  • รู้สึกระคายเคืองหรือแสบขณะปัสสาวะ

การตรวจวินิจฉัยโรคพยาธิในช่องคลอด

สำหรับการวินิจฉัยโรค เริ่มจากการตรวจประวัติการรักษา การพูดคุย ซักประวัติ พฤติกรรมทางเพศ ที่อยู่อาศัย สภาพความเป็นอยู่ทั่วไป ตรวจร่างกายเบื้องต้น ตรวจหาโรคติดต่อทางเพศอื่นๆเพิ่มเติม เช่น โรคเอดส์ โรคไวรัสตับอักเสบ โรคหูด โรคเริม โรคโลน โรคหนองใน โรคซิฟิลิส โรคแผลริมอ่อน และ ตรวจภายใน เก็บตัวอย่างตกขาว ตรวจหาพยาธิ ในห้องปฏิบัติการ เพื่อยืนยันเชื้อได้ถูกตัว จะได้วางแผนการรักษาที่ถูกต้อง

การรักษาโรคพยาธิในช่องคลอด

การรักษาโรคพยาธิในช่องคลอด สามารถรักษาให้หายขาดได้ ด้วยการรับประทานยาต่อเนื่อง 7-10 วัน ใช้ยาฆ่าพยาธิ มีสองชนิด คือ Metronidazole และ Tinidazole แต่ถึงแม้จะได้รับการรักษาจนหายขาดแล้ว ก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้

การป้องกันโรคพยาธิในช่องคลอด

สำหรับแนวทางการป้องกันการเกิดโรคนี้ สามารถปฏิบัติได้ ดังนี้

  • เมื่อรู้สึกแสบขณะปัสสาวะ แสบปลายองคชาต หรือ ตกขาวมากผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น คันช่องคลอด รีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย อย่าปล่อยเรื้อรัง
  • รักษาความสะอาด ชุดชั้นใน เสื้อผ้า อย่าใส่ซ้ำ
  • ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นด้วยสบู่ ทุกครั้งที่อาบน้ำ
  • สวมทุกยางอนามัย ทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์
  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย งดมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
  • รักษาสุขภาพเบื้องต้น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • ไม่หมกมุ่นเรื่องทางเพศมากเกินไป หากิจกรรมอื่นๆทำ เช่น จิตอาสา รวมกลุ่มออกกำลังกาย ค่ายอาสา เข้าวัดทำบุญ
ถุงกระสอบ ถุงล้อลาก ถุงสายรุ้ง ถุงการ์ตูน
ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove

สมุนไพรน่ารู้

คนทั่วไปมักเข้าใจว่าสมุนไพร คือ พืชที่สามารถนำมาทำเป็นยาเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว สมุนไพรนั้นหมายรวมถึง สัตว์ หรือ แร่ธาตุจากธรรมชาติด้วย เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่สามารถใช้รักษาโรคและบำรุงร่างกาย เพื่อประโยชน์กับทุกคน
ดอกคำฝอย สมุนไพร สรรพคุณของคำฝอย
ดอกคำฝอย
ว่านชักมดลูก สมุนไพร
ว่านชักมดลูก
โด่ไม่รู้ล้ม สมุนไพร สรรพคุณของโด่ไม่รู้ล้ม
ว่านโด่ไม่รู้ล้ม
หมามุ่ย สมุนไพร สรรพคุณหมามุ่ย
หมามุ่ย