งาดำ ธัญพืช สมุนไพร นิยมนำเมล็ดงาดำมาบริโภค ต้นงาดำเป็นอย่างไร สรรพคุณบำรุงหัวใจ บำรุงผิวพรรณ บำรุงผม และ บำรุงกระดูก โทษของงาดำ มีอะไรบ้างงาดำ สมุนไพร สรรพคุณของงาดำ

งาดำ ภาษาอังกฤษเรียก Black Sesame Seeds ชื่อวิทยศาสตร์ของงาดำ คือ Sesamum indicum L. พืชตระกูลงา ต้นงาดำ เป็นพืชในเขตร้อน พืชท้องถิ่นของเอเชีย และ ทวีปแอฟริกา

งาดำ มีประโยชน์มากมาย นิยมรับประทานเป็นอาหาร เพื่อสุขภาพ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินบี9 ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโพแทสเซียม โซเดียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุสังกะสี และ ธาตุเหล็ก เป็นต้น

ลักษณะของต้นงาดำ

ต้นงาดำ เป็นพืชล้มลุก สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่เขตร้อน ขยายพันธ์โดยการเพาะเมล็ดพันธ์ ลักษณะของต้นงาดำ มีดังนี้

  • ลำต้นงาดำ ลักษณะลำต้นตั้งตรง ความสูงประมาณ 1 เมตร ลำต้นเป็นเหลี่ยมๆ มีร่องตามยาว ลำต้นไม่มีแก่น อวบน้ำ มีขนสั้นปกคลุม เปลือกลำต้นสีเขียว
  • ใบงาดำ ลักษณะเป็นใบเดี่ยว สีเขียว ใบเป็นรูปหอก โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเล็กน้อย
  • ดอกงาดำ ลักษณะดอกเป็นช่อ ดอกเดี่ยว ขึ้นตามซอกใบ กลีบดอกลักษณะทรงกรวย กลีบดอกเมื่อบานเป็นสีขาว
  • ผลงาดำ หรือ ฝักงาดำ ลักษณะฝักยาวรี ปลายฝัฟแหลมทั้งสองข้าง ผิวฝักเรียบ ฝักเป็นร่องพู ฝักอ่อนสีเขียว มีขนปกคลุม ฝักแก่เป็นสีน้ำตาล
  • เมล็ดงาดำ เมล็ดอยู่ภายในฝัก ลักษณะเล็กๆ ทรงรีและแบน เมล็ดมีจำนวนมาก เปลือกเมล็ดมีสีดำ เมล็ดงาดำมีกลิ่นหอม

สายพันธุ์งาดำ

สำหรับงาดำในประเทศไทย มีหลายสายพันธ์ ซึ่ง สายพันธ์ที่นิยมปลูก มี 4 สายพันธ์ ประกอบด้วย งาดำบุรีรัมย์ งาดำนครสวรรค์ งาดำมก18 และ งาดำมข2 ลักษณะดังนี้

  • งาดำ สายพันธ์บุรีรัมย์ เป็นสายพันธุ์พื้นเมือง ลักษณะเด่น คือ เมล็ดมีขนาดใหญ่ สีเกือบดำสนิท มีอายุเก็บเกี่ยว ประมาณ 90 ถึง 100 วัน
  • งาดำ สายพันธ์นครสวรรค์ เป็นสายพันธุ์พื้นเมือง สายพันธ์นี้นิยมปลูกมากในทุกภาคของประดทศ ลักษณะเด่น คือ ลำต้นสูง ใบค่อนข้างกลม เมล็ดสีดำอวบและใหญ่ อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 95 ถึง 100 วัน
  • งาดำ สายพันธ์ มก.18 เป็นสายพันธ์แท้ พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลักษณะเด่น คือ ลำต้นสูง ไม่แตกกิ่ง ข้อลำต้นสั้น จำนวนฝักต่อต้นสูง ลำต้นแข็งแรง และทนต่อโรคราแป้งได้ดี
  • งาดำ สายพันธ์ มข.2 สายพันธ์ดั้งเดิม คือ ซีบี 80 เป็นสายพันธ์ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ลักษณะเด่น คือ ลำต้นสูงเมล็ดสีดำสนิท อายุการเก็บเกี่ยวสั้น ประมาณ 70 ถึง 75 วัน ทนแล้ง และต้านทานต่อโรคเน่าดำได้ดี

การเลือกซื้อเมล็ดงาดำ

สำหรับการเลือกซื้อเมล็ดงาดำที่มีคุณภาพ เพื่อนำมารับประทาน ต้องเลือกงาดำที่สะอาด ไม่มีสิ่งเจือปน ให้สังเกตุจากการเก็ยรักษาต้องเก็บในภาชนะที่สะอาด และ ไม่ควรเลือกซื้องาดำแบบบดสำเร็จ เพราะ อาจมีเชื้อราปนอยู่

การเก็บรักษางาดำ ให้เก็บในขวดที่สะอาด ปิดฝามิดชิด และเก็บไว้ในที่แห้ง

คุณค่าทางโภชนาการของงาดำ

สำหรับการรับประทานงาดำ จะใช้ประโยชน์จาก เมล็ดในฝักของงาดำ นำมาปรุงอาหาร ให้กลิ่นหอม นักโภชนาการได้ทำการศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดงาดำ มีดังนี้

คุณค่าทางโภชนาการของงาดำ ขนาด 100 กรัม ให้พลังงาน พลังงาน 573 กิโลแคลอรี่ มีสารอาหารสำคัญประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 23.45 กรัม กากใยอาหาร 11.8 กรัม โปรตีน 17.73 กรัม น้ำตาล 0.30 กรัม ธาตุแคลเซียม 975 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 14.55 มิลลิกรัม ธาตุซีลีเนียม 5.7 ไมโครกรัม ธาตุโซเดียม 11 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 629 มิลลิกรัม ธาตุสังกะสี 7.75 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 468 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 351 มิลลิกรัม ธาตุแมงกานีส 2.460 มิลลิกรัม ธาตุทองแดง 4.082 มิลลิกรัม กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 18.759 กรัม กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 21.773 กรัม กรดไขมันอิ่มตัว 6.957 กรัม กรดกลูตามิก 3.955 กรัม กรดแอสพาร์ติก 1.646 กรัม เมไธโอนีน 0.586 กรัม ทรีโอนีน 0.736 กรัม ซีสทีอีน 0.358 กรัม ซีรีน 0.967 กรัม ฟีนิลอะลานีน 0.940 กรัม อะลานีน 0.927 กรัม อาร์จินีน 2.630 กรัม โปรลีน 0.810 กรัม ไกลซีน 1.215 กรัม ฮิสทิดีน 0.522 กรัม ทริปโตเฟน 0.388 กรัม ไทโรซีน 0.743 กรัม วาลีน 0.990 กรัม ไอโซลิวซีน 0.763 กรัม ลิวซีน 1.358 กรัม ไลซีน 0.569 กรัม ไฟโตสเตอรอล 714 มิลลิกรัม เบต้าแคโรทีน 5 ไมโครกรัม และ มีวิตามินต่างๆ ประกอบด้วย วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินบี9

น้ำมันงาดำ

เมล็ดงาดำสามารถสกัดเอาน้ำมันงาดำได้ ซึ่งสามารถทำได้โดยนำเมล็ดงาไปตำให้ละเอียดจากนั้นนำไปต้มน้ำร้อนจนน้ำมันแยกออกจากน้ำ และทำการแยกน้ำมันบริสุทธิ์ออกมาใช้ประโยชน์

สรรพคุณงาดำ

สำหรับการใช้ประโยชน์จากงาดำ ด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค จะใช้ประโยชน์จากเมล็ดงาดำ และ น้ำมันงาดำ สรรพคุณของงาดำ มีดังนี้

  • เมล็ดงาดำ สรรพคุณป้องกันมะเร็ง ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยชะลอความแก่ บำรุงระบบประสาทและสมอง บำรุงร่างกาย แก้อาการเมื่อยล้า ช่วยขับเสมหะ แก้ไอ ลดความอ้วน ช่วยบำรุงตับ ช่วยลดไขมัน ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ป้องกันโรคหัวใจ บำรุงเลือด ช่วยให้ระบบเลือดหมุนเวียนดี ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ช่วยรักษาระดับความดันเลือดให้เป็นปกติ แก้ท้องผูก ช่วยบำรุงเส้นผม ป้องกันโรคคอพอก ช่วยบำรุงสายตา ช่วยบำรุงกระดูก รักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ช่วยให้ผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับสบาย
  • น้ำมันงาดำ สรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อรา เป็นยาระบายอ่อนๆ รักษาแผล รักษาแผลแมลงสัตว์กัดต่อย แก้ปวด รักษาผดผื่นคัน และ บำรุงเส้นผม

โทษของงาดำ

สำหรับงาดำ มีประโยชน์มากมายก้จริง แต่การใช้ประโยชน์ต้องเลือกใช้ในปริมาณที่เหมาะสม แต่เพื่อความปลอดภัยไม่ควรใช้นานเกินกว่า 20 วัน ข้อควรระวังในการรับประทานงาดำ มีดังนี้

  • หญิงตั้งครรภ์และสตรีที่กำลังให้นมบุตร สามารถรับประทานงาดำได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่แนะนำให้รับประทานเพื่อรักษาโรค
  • งาดำมีสรรพคุณลดน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่รับประทานยารักษาโรคเบาหวานอยู่ หากกินงาดำร่วม อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป รวมถึงผู้ป่วยที่กำลังเข้ารับการผ่าตัด ควรงดการกินงาดำ
  • งาดำสรรพคุณทำให้ความดันต่ำลง สำหรับผู้ป่วยภาวะความดันต่ำ อาจทำให้ระดับความดันโลหิตลดต่ำเกินไป

Fongza.com เว็บไซต์ที่ทำเนื้อหาเกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านสุขภาพ โดยเราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีต้องดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เนื้อหาของเราจึงประกอบด้วย โรคต่างๆ การรักษาโรค สมุนไพร การเลี้ยงลูก แม่และเด็ก การออกกำลังกาย ความสวยความงาม โหงวเฮ้ง และ อาหารสุขภาพ โดยเน้นการให้ความรู้ ไม่ได้มีเจตนาให้คำวินิจฉัยการรักษาโรค การที่ท่านนำเนื้อหาของเราไปใช้ประโยชน์ให้ปรึกษาผู้เชียวชาญก่อน หากป่วยให้เข้ารับการรักษากับแพทย์เท่านั้น

ขอบคุณท่านผู้สนับสนุนการทำเนื้อหา ทรัพทย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบ ถุงกระสอบสำหรับงานขนย้ายต่างๆ ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก ถุงราคาถูกที่ใครๆก็จับต้องได้

มะเขือพวง ผลมะเขือพวงนำมารับประทานเป็นผักสด ต้นมะเขือพวงเป็นอย่างไร สรรพคุณช่วยเจริญอาหาร ช่วยย่อยอาหาร ช่วยขับถ่าย ช่วยขับปัสสาวะ โทษของมะเขือพวงมีอะไรบ้างมะเขือพวง สมุนไพร สมุนไพรไทย

ต้นมะเขือพวง ภาษาอังกฤษ Pea aubergine พืชตระกูลมะเขือ ชื่อวิทยาศาสตร์ของมะเขือพวง คือ Solanum torvum Sw. มะเขือเรียกอื่นๆ เช่น มะแว้งช้าง (สงขลา) มะเขือละคร (นครราชสีมา)  หมากง (ภาคอีสาน) เขือน้อย เขือพวง เขือเทศ ลูกแว้ง (ภาคใต้) มะแคว้งกุลา (ภาคเหนือ)  เป็นต้น

มะเขือพวง เป็นพืชเขตร้อน ถิ่นกำเนิดของมะเขือพวง คือ ทวีปอเมริกากลางและทวีปอเมริกาใต้ สำหรับในประเทศไทย มะเขือพวงนิยมรับประทานผลสด โดยนำมาทำอาหารหลากหลายเมนู เช่น แกงป่า แกงคั่ว แกงอ่อม แกงเขียวหวาน แกงเนื้อ น้ำพริก ผัดเผ็ด เป็นต้น

ผลมะเขือพวง มีสารสำคัญอยู่ 2 กลุ่ม คือ สารกลุ่มไฟโตนิวเทรียนท์ และ สารกลุ่มอัลคาลอยด์ เป็นสารที่มีประโยชนืต่อสุขภาพ รายละเอียดของสารดังกล่าว มีดังนี้

  • สารกลุ่มอัลคาลอยด์ ( Alkaloids ) ลักษณะเด่น คือ รสขม ไม่มีสี มีฤทธิ์เป็นด่าง ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและอวัยวะต่างๆ ซึ่งสารชนิดนี้จะสลายตัวเมื่อโดนความร้อน สรรพคุณช่วยต้านโรคมะเร็ง ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง
  • สารกลุ่มไฟโตนิวเทรียนท์ ( Phytonutrient ) สรรพคุณช่วยฟื้นฟูร่างกาย ช่วยคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้ ช่วยขับเสมหะ

ลักษณะของต้นมะเขือพวง

ต้นมะเขือพวง เป็นพืชล้มลุก ทนต่อสภาพอากาศร้อน และ ไม่มีแมลงศัตรูพืช สามารถขยายพันธ์โดยการ ปักชำ และ การเพาะเมล็ดพันธ์ ลักษณะของมะเขือพวง มีดังนี้

  • ลำต้นมะเขือพวง ลำต้นสูงประมาณ 1 เมตร ลำต้นและกิ่งแตกกิ่งก้านสาขามากมาย ปกคลุมด้วยหนามและในบางสายพันธ์ไม่มีหนาม
  • ใบมะเขือพวง ลักษณะใบเป็นรูปไข่ สีเขียว ใบกว้าง เรียบ ขอบใบเว้า
  • ดอกมะเขือพวง ลักษณะดอกเป็นช่อ รูปทรงกรวยแตร กลีบดอกสีเขียว ขาว และ ม่วง เกสรตัวผู้มีสีเหลือง
  • ผลมะเขือพวง ลักษณะกลม สีเขียว ผิวของผลเรียบ ผลอ่อนรสขม ผลสุกสีเหลือง รสฝื่นและเปรี้ยว ภายในผลมีเมล็ดจำนวนมาก สามารถนำมาขยายพันธ์ได้

คุณค่าทางโภชนาการของมะเขือพวง

สำหรับการศึกษาสารเคมีและสารอาหารต่างๆในมะเขือพวง นักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของมะเขือพวง มีดังนี้

คุณค่าทางโภชนาการของมะเขือพวง ขนาด 100 กรัม ให้พลังงาน 24 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 5.7 กรัม น้ำตาล 2.35 กรัม กากใยอาหาร 3.4 กรัม ไขมัน 0.19 กรัม โปรตีน 1.01 กรัม ธาตุแคลเซียม 9 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.24 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 14 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 25 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 230 มิลลิกรัม ธาตุสังกะสี 0.16 มิลลิกรัม ธาตุแมงกานีส 0.25 มิลลิกรัม วิตามินต่างๆ เช่น วิตามินบี 1 0.039 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.037 มิลลิกรัม วิตามินบี 3 0.649 มิลลิกรัม วิตามินบี 5 0.281 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 0.84 มิลลิกรัม วิตามินบี 9 22 ไมโครกรัม และ วิตามินซี 2.2 มิลลิกรัม

สารเคมีสำคัญในมะเขือพวก มีหลายชนิด ประกอบด้วย  ทอร์โวไซด์ เอ (torvoside A ) ทอร์โวไซด์ เอช (torvoside H)  ทอร์โวนิน บี (torvonin B) โซลานีน (solanine) โซลาโซนีนและโซลามาจีน (solasonine and solamagine)  โซลาโซดีน (solasodine) และ เพกติน รายละเอียด ดังนี้

  • ทอร์โวไซด์ เอ (torvoside A) ทอร์โวไซด์ เอช (torvoside H)  คือ สารสตีรอยด์ไกลไซด์ มีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสเริม
  • เพกติน คือ สารที่ละลายน้ำได้ ช่วยเคลือบที่ผิวของลำไส้ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • ทอร์โวนิน บี ( torvonin B ) คือ สารซาโพนิน มีฤทธิ์ขับเสมหะ
  • โซลาโซนีนและโซลามาจีน (solasonine and solamagine) คือ ไกลโคซิเลตอัลคาลอยด์
  • โซลานีน ( solanine ) คือ สารทำให้แคลเซียมในร่างกายไม่สมดุลย์ ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับไขข้อกระดูก ควรหลีกเลี่ยง
  • โซลาโซดีน ( solasodine ) คือ สารที่สรรพคุณต้านโรคมะเร็ง

สรรพคุณของมะเขือพวง

สำหรับการใช้ประโยชน์จากมะเขือพวง สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายส่วน เช่น ใบ ลำต้น ผล และ ราก สรรพคุณของมะเขือพวง มีดังนี้

  • ผลมะเขือพวง สรรพคุณช่วยต้านมะเร็ง รักษาโรคเริม ช่วยขับเสมหะ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรีย รักษาอาการอักเสบ ช่วยชะลอวัย ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดความเครียด ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย บำรุงร่างกาย ช่วยบำรุงเลือด ช่วยยับยั้งการแข็งตัวของเลือด บำรุงสายตา แก้ไอ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ป้องกันโรคท้องผูก รักษาริดสีดวงทวาร รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยบำรุงตับ ช่วยบำรุงไต แก้อาการฟกช้ำ รักษาแผลฝีมีหนอง
  • ใบมะเขือพวง สรรพคุณช่วยรักษาโรคซิฟิลิส เป็นยาระงับประสาท ช่วยขับเหงื่อ แก้อาการชัก ช่วยลดไข้ ช่วยขับปัสสาวะ แก้ปวดข้อ รักษาฝี รักษาแผลติดเชื้อ ช่วยรักษาโรคผิวหนัง ช่วยห้ามเลือด
  • ทั้งต้นมะเขือพวง สรรพคุณแก้อาการหืด
  • รากมะเขือพวง สรรพคุณช่วยขับพิษในร่างกาย ช่วยรักษารอยเท้าแตก ช่วยแก้โรคตาปลา
  • เมล็ดมะเขือพวง สรรพคถณแก้ปวดฟัน
  • ลำต้นมะเขือพวง สรรพคุณช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย รักษาโรคกลากเกลื้อน

โทษของมะเขือพวง

สำหรับการใช้ประโยชน์ของมะเขือพวงมีข้อควรระวังดังนี้

  • ผลมะเขือพวงมีฤทธิ์ช่วยต้านอาการแข็งตัวของเลือด สำหรับผู้ป่วยที่จะเข้ารับการผ่าตัด ควรงดกินมะเขือพวง อาจส่งผลต่อการเลือดไม่หยุดไหลได้
  • มะเขือพวงมีสารโซลานีน ( Solanine ) ทำให้เกิดความไม่สมดุลของแคลเซียมในร่างกาย ผู้ที่เป็นโรคไขข้อควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน

มะเขือพวง พืชพื้นบ้าน ผลมะเขือพวงนำมารับประทานเป็นผักสด ลักษณะของต้นมะเขือพวงเป็นอย่างไร สรรพคุณของมะเขือพวง เช่น ช่วยเจริญอาหาร ช่วยย่อยอาหาร ช่วยขับถ่าย ป้องกันโรคท้องผูก ช่วยขับปัสสาวะ โทษของมะเขือพวง มีอะไรบ้าง

Fongza.com เว็บไซต์ที่ทำเนื้อหาเกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านสุขภาพ โดยเราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีต้องดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เนื้อหาของเราจึงประกอบด้วย โรคต่างๆ การรักษาโรค สมุนไพร การเลี้ยงลูก แม่และเด็ก การออกกำลังกาย ความสวยความงาม โหงวเฮ้ง และ อาหารสุขภาพ โดยเน้นการให้ความรู้ ไม่ได้มีเจตนาให้คำวินิจฉัยการรักษาโรค การที่ท่านนำเนื้อหาของเราไปใช้ประโยชน์ให้ปรึกษาผู้เชียวชาญก่อน หากป่วยให้เข้ารับการรักษากับแพทย์เท่านั้น

ขอบคุณท่านผู้สนับสนุนการทำเนื้อหา ทรัพทย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบ ถุงกระสอบสำหรับงานขนย้ายต่างๆ ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก ถุงราคาถูกที่ใครๆก็จับต้องได้

ถุงกระสอบ ถุงล้อลาก ถุงสายรุ้ง ถุงการ์ตูน
ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove

สมุนไพรน่ารู้

คนทั่วไปมักเข้าใจว่าสมุนไพร คือ พืชที่สามารถนำมาทำเป็นยาเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว สมุนไพรนั้นหมายรวมถึง สัตว์ หรือ แร่ธาตุจากธรรมชาติด้วย เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่สามารถใช้รักษาโรคและบำรุงร่างกาย เพื่อประโยชน์กับทุกคน
ดอกคำฝอย สมุนไพร สรรพคุณของคำฝอย
ดอกคำฝอย
ว่านชักมดลูก สมุนไพร
ว่านชักมดลูก
โด่ไม่รู้ล้ม สมุนไพร สรรพคุณของโด่ไม่รู้ล้ม
ว่านโด่ไม่รู้ล้ม
หมามุ่ย สมุนไพร สรรพคุณหมามุ่ย
หมามุ่ย