แครอท ( Carrot ) นิยมรับประทานหัวแครอทเป็นอาหาร ต้นแครอทเป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการ ประโยชน์และสรรพคุณบำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ เป็นต้น โทษของแครอท มีอะไรบ้าง

แครอท สมุนไพร สมุนไพรไทย

ต้นแครอท ภาษาอังกฤษ เรียก Carrot ชื่อวิทยาศาสตร์ของแครอท คือ Daucus carota L. แครอทจัดเป็นพืชล้มลุก ตระกูลเดียวกับผักชี มีต้นกำเนิดในประเทศแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียกลาง ต้นแครอมมีหัวอยู่ใต้ดิน หัวแครอทมีหลายสี เช่น สีเหลือง สีม่วง สีส้ม เป็นต้น นิยมนำมารับประทานเป็นอาหาร

หัวแครอท มีสารอาหารมากมาย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น เบตาแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินซี วิตามินอี แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เป็นต้น ที่สำคัญมี สารฟอลคารินอล ( falcarinol ) ช่วยต้านเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี สรรพคุณของแครอท ใช้รักษาโรคได้อย่างหลากหลาย

ลักษณะของต้นแครอท

ต้นแครอท คือ พืชล้มลุกตระกูลผักชี สามารถขยายพันธ์โดยการแยกหน่อและการเพาะเมล็ดพันธ์ แครอทสามารถเจริญเติบโตได้ดีใน ดินร่วนปนทรายที่มีอินทรีย์วัตถุสูง ระบายนํ้าได้ดี หน้าดินลึก และ ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับปลูกแครอท คือ ระหว่างเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี ต้นแครอทมีหัวอยู่ใต้ดิน โดยลักษณะของต้นแครอท มีรายละเอียด ดังนี้

  • หัวแครอท เป็นส่วนที่อยู่ใต้ดิน ลักษณะยาว ประมาณ 15 เซ็นติเมตร ลักษณะอ้วน ปลายแหลม ผิวเรียบ มีต่างๆ เช่น สีส้ม สีเหลือง สีม่วง หัวแครอทคือส่วนที่นิยมนำมารับประทานได้ ที่หัวของแครอทมีราก
  • ใบแครอท ใบแครอทมีสีเขียว อยู่ตามก้านใบ ซึ่งก้านใบแครอทออกมาจากหัวแครอท ก้านใบแครอท ลักษณะยาว สีเขียว  ความสูงของก้านใบประมาณ 20 เซนติเมตร ใบแครอท มีสีเขียว เป็นลักษณะฝอยๆ เหมือนในผักชี

สายพันธุ์ของแครอท

สำหรับแครอทไม่ใช่พืชพื้นเมืองของประเทศไทย ซึ่งแครอทมีหลายสายพันธ์ ซึ่งแต่ละสาพันธ์มีสีของหัวแครอทที่แตกต่างกันออกไป โดย สายพันธ์แครอทที่น่าสนใจ มีดังนี้

  • แครอทพันธุ์เบบี้แครอท ( Baby carrot ) หัวขนาดเล็ก สีส้ม ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร
  • แครอทพันธุ์แนนเทส ( Nantes ) หัวขนาดปานกลาง สีส้ม ความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร
  • แครอทพันธุ์แชนทีเน่ ( Chantenay ) หัวขนาดปานกลาง สีส้ม ความยาวประมาณ 25 เซนติเมตร
  • แครอทพันธุ์แดนเวอร์ ( Danvers ) หัวขนาดเล็ด สั้น และ เรียว มีสีส้ม ความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร
  • แครอทพันธุ์อิมเพอเรเตอร์ ( Imperater ) หัวขนาดใหญ่ สีส้ม ความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร
  • แครอทพันธุ์หงส์แดง ( New Kuruda ) เป็นแครอทสายพันธ์ไทย
  • แครอทพันธุ์มินิเอ็กซ์เพรส ( Mini Express ) หัวขนาดเล็ก เรียวยาว ปลูกได้ตลอดทั้งปี
  • แครอทพันธุ์ทัมบีลีนา ( Thumbelina ) หัวกลม และ สั้น สีส้ม ความยาวประมาณ 5 เซนติเมตร
  • แครอทพันธุ์ทัวริโนเอฟวัน ( Tourino F1 ) หัวอ้วนเตี้ย สีส้ม

คุณค่าทางโภชนาการของแครอท

สำหรับการศึกษาแครอท นักโภชนาการไค้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของหัวแครอท โดยคุณค่าทางโภชนาการของหัวแครอท มีดังนี้

คุณค่าทางโภชนาการของหัวแครอท ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงานมากถึง 41 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 9.6 กรัม น้ำตาล 4.7 กรัม กากใยอาหาร 2.8 กรัม ไขมัน 0.24 กรัม โปรตีน 0.93 กรัม วิตามินเอ 835 ไมโครกรัม  เบตาแคโรทีน 8,285 ไมโครกรัม ลูทีนและซีแซนทีน 256 ไมโครกรัม วิตามินบี1 0.066 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.058 มิลลิกรัม วิตามินบี3 0.983 มิลลิกรัม วิตามินบี5 0.273 มิลลิกรัม วิตามินบี6 0.138 มิลลิกรัม วิตามินบี9 19 ไมโครกรัม วิตามินซี 5.9 มิลลิกรัม วิตามินอี 0.66 มิลลิกรัม ธาตุแคลเซียม 33 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม ธาตุแมงกานีส 0.143 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 35 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 320 มิลลิกรัม ธาตุโซเดียม 69 มิลลิกรัม ธาตุสังกะสี 0.24 มิลลิกรัม และ ธาตุฟลูออไรด์ 3.2 ไมโครกรัม

ซึ่งในหัวแครอท มีสารสำคัญ คือ ฟอลคารินอล ( falcarinol ) สารชนิดนี้มีคุณสมบัติช่วยต้านการเจริญเติบโตของเซล์มะเร็ง

สรรพคุณของแครอท

สำหรับประโยชน์ของแครอทด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค นั้นมีมากมาย โดย สรรพคุณของแครอท มีรายละเอียดดังนี้

  • บำรุงสายตา แครอทมีวิตามินเอสูง ช่วยถนอมดวงตา และ สายตา
  • ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง แครอทมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  • บำรุงเลือด แครอทช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดี ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยรักษาสมดุลของน้ำตาลในเลือด
  • บำรุงระบบทางเดินอาหาร ช่วยให้ปรับการระบบย่อยอาหารมีประสิทธิภาพ
  • บำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวเปล่งปลั่งอยู่เสมอ ลดรอยเหี่ยวย่น ช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ช่วยรักษาแผล ช่วยสมานแผล
  • บำรุงเส้นผม แครอทช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรง
  • บำรุงร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค
  • ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
  • ช่วยขับพยาธิ
  • ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน

โทษของแครอท

สำหรับการรับประทานแครอทอย่างปลอดภัย ต้องรับประทานแครอทในปริมาณที่เหมาะสม ข้อควรระวังในการรับประทานแครอทมีดังนี้

  • สำหรับคนบางคนอาจแพ้แครอท หากพบว่าเกิดอาการแพ้หลังจากกินแครอท ให้หยุดกินและพบแพทย์เพื่อรักษาด่วน
  • สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่กินยาลดน้ำตาลในเลือดอยู่แล้ว การกินแครอทในปริมาณมากอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง สำหรับผุ้ป่วยโรคเบาหวานควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างใกล้ชิด
  • หัวแครอทสดๆ ที่ไม่ผ่านความร้อน อาจมีกลิ่นเหม็นเขียว อาจทำให้อาเจียนได้ การรับประทานแครอท ควรทำให้ผ่านความร้อนก่อน หรือ ทำให้หัวแครอทมีขนาดเล็กลงก่อน

แครอท ( Carrot ) ผักสวนครัว หัวแครอท นิยมรับประทานเป็นอาหาร ลักษณะของต้นแครอทเป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการของแครอท ประโยชน์และสรรพคุณของแครอท เช่น บำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ เป็นต้น โทษของแครอท มีอะไรบ้าง

Fongza.com เว็บไซต์ที่ทำเนื้อหาเกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านสุขภาพ โดยเราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีต้องดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เนื้อหาของเราจึงประกอบด้วย โรคต่างๆ การรักษาโรค สมุนไพร การเลี้ยงลูก แม่และเด็ก การออกกำลังกาย ความสวยความงาม โหงวเฮ้ง และ อาหารสุขภาพ โดยเน้นการให้ความรู้ ไม่ได้มีเจตนาให้คำวินิจฉัยการรักษาโรค การที่ท่านนำเนื้อหาของเราไปใช้ประโยชน์ให้ปรึกษาผู้เชียวชาญก่อน หากป่วยให้เข้ารับการรักษากับแพทย์เท่านั้น

ขอบคุณท่านผู้สนับสนุนการทำเนื้อหา ทรัพทย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบ ถุงกระสอบสำหรับงานขนย้ายต่างๆ ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก ถุงราคาถูกที่ใครๆก็จับต้องได้

ชะพลู นิยมรับประทานใบชะพลู ต้นชะพลูเป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการ ประโยชน์และสรรพคุณช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับเสมหะ เป็นต้น โทษของชะพลูทำให้เป็นนิ่วในไตชะพลู สมุนไพร สมุนไพรไทย

ต้นชะพลู ( Wildbetal leafbush ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของชะพลู คือ Piper sarmentosum Roxb. ชื่อเรียกอื่นๆของชะพลู เช่น ผักพลูนก , พลูลิง , ปูลิง , ปูลิงนก , ผักปูนา , ผักแค , ผักอีเลิด , ผักนางเลิด , ช้าพลู , นมวา เป็นต้น ชะพลู พืชพื้นบ้าน ตระกูลพริกไทย ใบชะพลูมีสารบีตาแคโรทีนสูง นิยมนำใบมารับประทานเป็นอาหาร เช่น เมี่ยงคำ แกงกะทิ ข้าวยำ ห่อหมก หรือ นำมากินกับน้ำพริก แต่ใบชะพลูไม่ควรรับประทานมากเกินไป หรือ รับประทานอย่างเป็นประจำ

ลักษณะของต้นชะพลู

ชะพลู พืชตระกลูเดียวกับพริกไทย เป็นพืชล้มลุก พืชคุลมดิน สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด แต่ชะพลูชอบดินร่วนซุย และมีความชุ่มชื้น มีร่มเงา ชะพลู สามารถขยายพันธุ์ โดยการแยกเหง้า หรือ แตกหน่อ ลักษณะของต้นชะพลู มีดังนี้

  • ลำต้นชะพลู มีลักษณะตั่งตรง เกาะตามหลักหรือเสา สูงประมาณ 50 เซ็นติเมตร ลำต้นมีสีเขียว ลำต้นเป็นข้อๆ
  • ใบชะพลู ลักษณะคล้ายรูปหัวใจ ใบสีเขียวสด ผิวใบเรียบนูน ลักษณะมันวาว ใบมีกลิ่นหอม ใบออกตามข้อของลำต้น
  • ดอกชะพลู ออกดอกเป็นช่อ ลักษณะของดอกชะพลูเป็นทรงกระบอก ดอกอ่อนชะพลูมีสีขาว ดอกแก่ชะพลูสีเขียว ดอกแทงออกบริเวณปลายยอดและช่อใบ
  • ผลชะพลู ผลชะพลูมีสีเขียว ลักษณะมัน ผลออกบนช่อดอก ลักษณะเล็กกลมฝังตัวในช่อดอก ดอกชะพลูออกในฤดูฝนของทุกปี

คุณค่าโภชนากการของชะพลู

ใบชะพลู นิยมนำมารับประทานเป็นผักสด สารอาหารสำคัญใน ใบชะพูล เช่น แคลเซียม เบต้าแคโรทีน น้ำมันหอมระเหย ( Volatile Oil ) ที่ประกอบด้วยสารในกลุ่ม Lignans และ Alkaloids

นักโภชนาการได้ศึกษา คุณค่าทางโภชนาการชองใบชะพลู ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 101 กิโลแคลอรี่ และ มีสารอาหารสำคัญประกอบด้วย กากใยอาหาร 6.09 กรัม โปรตีน 5.40 กรัม ไขมัน 2.50 กรัม คาร์โบไฮเดรต 14.20 กรัม แคลเซียม 298.00 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 30 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 4.63 กรัม วิตามินบี1 0.09 กรัม วิตามินบี2 0.23 กรัม ไนอาซีน 3.40 กรัม วิตามินซี 22.00 กรัม และ เบต้าแคโรทีน 414.45 ไมโครกรัม

สรรพคุณของชะพลู

สำหรับชะพลู มีประโยชน์ด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค ชะพลู สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ทั้ง รากชะพลู ลำต้นชะพลู ใบชะพลู และ ผลชะพลู สรรพคุณของชะพลู มีดังนี้

  • รากชะพลู มีรสชาติเผ็ดร้อน สรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยปรับสมดุลร่างกาย ช่วยเจริญอาหาร ช่วยขับเสมหะ แก้ปวดท้อง แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลม บำรุงเลือด
  • ลำต้นชะพลู สรรพคุณช่วยขับเสมหะ แก้ปวดท้อง
  • ใบชะพลู สรรพคุณช่วยขับลม รักษาโรคเบาหวาน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเจริญอาหาร บำรุงสายตา ป้องกันมะเร็ง ช่วยยับยั้งการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง บำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยขับถ่าย เป็นยาระบายอ่อนๆ
  • ผลชะพลู มีรสชาติเผ็ดร้อน สรรพคุณช่วยย่อยอาหาร
  • ดอกชะพลู สรรพคุณช่วยขับเสมหะ ช่วยขับลม

โทษของชะพลู

สำหรับการบริโภคชะพลู ต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม หากรับประมานมากเกินไป และ รับประทานติดต่อกันนานเกินไป จะเกิดโทษต่อร่างกาย โดยข้อควรระวังในการรับประทานชะพลู มีดังนี้

  • ใบชะพลูมีสารออกซาเลทสูง ไม่ควรรับประทานมากเกินไป การสะสมสารออกซาเลทมากๆ อาจทำให้เป็นนิ่วในไต สำหรับการขับสารออกซาเลท ต้องดื่มน้ำตามมากๆ สารออกซาเลตจะเจือจางลง โดยทางการปัสสาวะ

 

ชะพลู พืชล้มลุก ตระกลูพริกไทย นิยมรับประทานใบชะพลู ลักษณะของต้นชะพลู คุณค่าทางโภชนาการของใบชะพลู ประโยชน์และสรรพคุณของชะพลู เช่น ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับเสมหะ เป็นต้น โทษของชะพลู ทำให้เป็นนิ่วในไต

 

Fongza.com เว็บไซต์ที่ทำเนื้อหาเกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านสุขภาพ โดยเราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีต้องดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เนื้อหาของเราจึงประกอบด้วย โรคต่างๆ การรักษาโรค สมุนไพร การเลี้ยงลูก แม่และเด็ก การออกกำลังกาย ความสวยความงาม โหงวเฮ้ง และ อาหารสุขภาพ โดยเน้นการให้ความรู้ ไม่ได้มีเจตนาให้คำวินิจฉัยการรักษาโรค การที่ท่านนำเนื้อหาของเราไปใช้ประโยชน์ให้ปรึกษาผู้เชียวชาญก่อน หากป่วยให้เข้ารับการรักษากับแพทย์เท่านั้น

ขอบคุณท่านผู้สนับสนุนการทำเนื้อหา ทรัพทย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบ ถุงกระสอบสำหรับงานขนย้ายต่างๆ ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก ถุงราคาถูกที่ใครๆก็จับต้องได้

ถุงกระสอบ ถุงล้อลาก ถุงสายรุ้ง ถุงการ์ตูน
ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove

สมุนไพรน่ารู้

คนทั่วไปมักเข้าใจว่าสมุนไพร คือ พืชที่สามารถนำมาทำเป็นยาเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว สมุนไพรนั้นหมายรวมถึง สัตว์ หรือ แร่ธาตุจากธรรมชาติด้วย เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่สามารถใช้รักษาโรคและบำรุงร่างกาย เพื่อประโยชน์กับทุกคน
ดอกคำฝอย สมุนไพร สรรพคุณของคำฝอย
ดอกคำฝอย
ว่านชักมดลูก สมุนไพร
ว่านชักมดลูก
โด่ไม่รู้ล้ม สมุนไพร สรรพคุณของโด่ไม่รู้ล้ม
ว่านโด่ไม่รู้ล้ม
หมามุ่ย สมุนไพร สรรพคุณหมามุ่ย
หมามุ่ย