ถั่วแดง พืชตระกูลถั่ว นิยมรับประทานเมล็ดถั่วแดงเป็นอาหาร ลักษณะของต้นถั่วแดง คุณค่าทางโภชนาการของถั่วแดง สรรพคุณป้องกันท้องผูก ลดไขมันในเส้นเลือด โทษของถั่วแดงถั่วแดง ธัญพืช สมุนไพร สรรพคุณถั่วแดง

ต้นถั่วแดง ภาษาอังกฤษ เรียก Kidney bean ชื่อวิทยาศาสตร์ของถั่วแดง คือ Phasecolus vulgaris L. สำหรับชื่อเรียกอื่นๆของถั่วแดง เช่น ถั่วแดงหลวง ถั่วท้องนา ถั่วนาเต็มกำ เป็นต้น เมล็ดของถัวแดง นั้นจริงๆมีหลายสี เช้น สีแดงเข้ม สีแดงม่วง และ สีชมพู ซึ่งสำหรับสายพันธืถั่วแดงนิยมปลูกในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ ถั่วแดงหลวง และ ถั่วนิ้วนางแดง

ถั่วแดงในประเทศไทย

สำหรับถั่วแดงในประเทศไทย มีการส่งเสริมให้ปลูกโดยโครงการหลวง ซึ่งนำเข้ามาปลูกครั้งแรกในปี พ.ศ. 2514 โดยหม่อมเจ้าภีศเดช รัศนี วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ชาวเขาปลูกเป็นพืชทดแทนฝิ่น ต่อมามีการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ถั่วแดงขึ้นมาเองได้สำเร็จ คือ ถั่วแดงสายพันธ์หมอกจ๋าม จากนั้นได้มีการพัฒนาสายพันธ์ถั่วแดงเรื่อยมา จนได้สายพันธ์ที่สามารถปลูกและ เป็นที่นิยมถึงทุกวันนี้ คือ ถั่วแดงพันธ์นิ้วนางแดง และ ถั่วแดงหลวง

สายพันธ์ถั่วแดงที่นิยมปลูกในประเทศไทย

จากการส่งเสริมและพัฒนาถั่วแดง โดยโครงการหลวง จึงได้สายพันธ์ถั่วแดงที่นิยมปลูกในประเทศไทย ซึ่งมี 2 ชนิด คือ ถั่วนิ้วนางแดง และ ถั่วแดงหลวง ถั่วแดงหลวงเป็นสายพันธืที่นิยมปลูกมากที่สุด รายละเอียดของชนิดของถั่วแดง มีดังนี้

  • ถั่วนิ้วนางแดง เดิมทีเรียกว่าถั่วแดงซีลอน เป็นถั่วแดงสายพันธ์ที่ไวต่อแสง นิยมปลูกแซมตามแปลงพืชต่างๆ เช่น แปลงข้าวโพด ถั่วนิ้วนางแดง สามารถผลิตเพื่อการส่งออกได้จำนวนมาก โดยมีตลาดสำคัญ คือ ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ แหล่งปลูกถั่วนิ้วนางแดงที่สำคัญ คือ อำเภอวังสะพังและอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย จังหวัดขอนแก่น จังหวัดพิษณุโลก เป็นต้น
  • ถั่วแดงหลวง เป็นสายพันธ์ที่นิยมปลูกมากที่สุดในปัจจุบัน ถั่วแดงหลวงมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ และต่อมาสามารถแพร่กระจายไปสู่อเมริกากลาง แอฟริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และ เอเชีย

ลักษณะของต้นถั่วแดง

ต้นถั่วแดง เป็นพืชล้มลุก อายุสั้นเพียง 1 ปี นิยมรับประทานเมล็ดของถั่วแดงเป็นอาหาร สำหรับการปลูกถั่วแดง สามารถปลูกได้ดีบนที่สูง อุณหภูมิช่วง 19 – 23 องศาเซลเซียส ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำดี สามารถขยายพันธ์ได้โดยการเพาะเมล็ดพันธ์ ลักษณะของต้นถั่วแดง มีดังนี้

  • ลำต้นถั่วแดง ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้าน เป็นพุ่มเตี้ยๆ ความสูงของลำต้นประมาณ 60 เซนติเมตร
  • ใบถั่วแดง เป็นใบประกอบเรียงกันตามข้อกิ่ง ใบเป็นรูปหอก ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ มีขนอ่อนๆปกคลุม ใบเป็นสีเขียว
  • ดอกถั่วแดง ลักษณะเป็นช่อ กลีบดอกมีสีขาว ดอกออกตากซอกใบ
  • ฝักและเมล็ดถั่วแดง ลักษณะฝักเป็นรูปทรงกระบอก ยาว ความยาวของฝักประมาณ 10 เซนติเมตร ฝักอ่อนมีสีเขียว ฝักแก่มีสีน้ำตาลอ่อน ภายในฝักถั่วแดงมีเมล็ด เมล็ดอ่อนจะมีสีขาว เมล็ดแก่จะเป็นสีแดง

คุณค่าทางโภชนาการของถั่วแดง

สำหรับถั่วแดงนิยมรับประทานเมล็ดของถั่วแดงเป็นอาหาร ซึ่งนักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดถั่วแดง ขนาด 100 กรัม พลังงานมากถึง 337 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 61.29 กรัม น้ำ 11.75 กรัม น้ำตาล 2.1 กรัม กากใยอาหาร 15.2 กรัม ไขมัน 1.06 กรัม โปรตีน 22.53 กรัม ธาตุแคลเซียม 83 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 6.69 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 138 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 406 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 1,359 มิลลิกรัม ธาตุโซเดียม 12 มิลลิกรัม ธาตุสังกะสี 2.79 มิลลิกรัม และ วิตามินต่างๆ มากมาย ประกอบด้วย วิตามินบี1 0.608 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.215 มิลลิกรัม วิตามินบี3 2.11 มิลลิกรัม วิตามินบี6 0.397 มิลลิกรัม วิตามินบี9 394 ไมโครกรัม วิตามินซี 4.5 มิลลิกรัม วิตามินอี 0.21 มิลลิกรัม และ วิตามินเค 5.6 ไมโครกรัม

สรรพคุณถั่วแดง

สำหรับการใช้ประโยชน์จากถั่วแดง ด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค ใช้ประโยชน์จากเมล็ดถั่วแดง ซึ่ง สรรพคุณของเมล็ดถั่วแดง มีดังนี้

  • ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และ ป้องกันท้องผูก ช่วยกำจัดสารตกค้างที่สะสมในระบบทางเดินอาหาร
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง
  • ช่วยป้องกันมะเร็ง ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
  • บำรุงเลือดและหัวใจ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ช่วยขับปัสสาวะ
  • ป้องกันอาการชา รักษาอาการชาตามนิ้วมือ นิ้วเท้า
  • ช่วยขับพิษออกจากร่างกาย
  • ช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ
  • บำรุงข้อและกระดูก บรรเทาอาการปวดตามข้อ ลดอาการอักเสบ
  • ช่วยรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น

โทษของถั่วแดง

สำหรับการรับประทานถั่วแดง เพื่อการบำรุงร่างกายและรักษาโรค มีข้อควรแนะนำ สำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ ไม่ควรรัประทานถั่วแดง เนื่องจากอาจกระตุ้นห้อาการข้ออักเสบกำเริบ

Fongza.com เว็บไซต์ที่ทำเนื้อหาเกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านสุขภาพ โดยเราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีต้องดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เนื้อหาของเราจึงประกอบด้วย โรคต่างๆ การรักษาโรค สมุนไพร การเลี้ยงลูก แม่และเด็ก การออกกำลังกาย ความสวยความงาม โหงวเฮ้ง และ อาหารสุขภาพ โดยเน้นการให้ความรู้ ไม่ได้มีเจตนาให้คำวินิจฉัยการรักษาโรค การที่ท่านนำเนื้อหาของเราไปใช้ประโยชน์ให้ปรึกษาผู้เชียวชาญก่อน หากป่วยให้เข้ารับการรักษากับแพทย์เท่านั้น

ขอบคุณท่านผู้สนับสนุนการทำเนื้อหา ทรัพทย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบ ถุงกระสอบสำหรับงานขนย้ายต่างๆ ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก ถุงราคาถูกที่ใครๆก็จับต้องได้

กระเจี๊ยบ ดอกนำมารับประทานได้ ต้นกระเจี๊ยบเป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการของกระเจี๊ยบ สรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ รักษาโรคกระเพาะอาหาร โทษของกระเจี๊ยบมีอะไรบ้างกระเจี๊ยบ สมุนไพร พืชสวนครัว สรรพคุณของกระเจี๊ยบ

กระเจี๊ยบ ภาษาอังกฤษ เรียก Rosella พืชตระกูลชบา ชื่อวิทยาศาสตร์ของกระเจี๊ยบ คือ Hibiscus sabdariffa Linn. ชื่อเรียกอื่นๆของกระเจี๊ยบ เช่น ผักเก็งเค็ง ส้มเก็งเค็ง ส้มตะเลงเครง ใบส้มม่า แกงแคง ส้มปู แบลมีฉี่ แต่เพะฉ่าเหมาะ ปร่างจำบู้ ส้มเก็ง ส้มพอเหมาะ ส้มพอดี กระเจี๊ยบเปรี้ยว ส้มพอ เป็นต้น

ต้นกระเจี๊ยบ มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ซูดาน มาเลเซีย และ ประเทศไทย สำหรับแหล่งปลูกกระเจี๊ยบในประเทศไทย คือปทุมธานี สมุทรสาคร นนทบุรี นครปฐม กาญจนบุรี พิจิตร  ราชบุรี สุพรรณบุรี ระยอง และ นครนายก กระเจี๊ยบ อุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลาย เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และสารต้านอนุมูลอิสระ สรรพคุณทางยาของกระเจี๊ยบ เช่น รักษาอาการอักเสบ ต้านเชื้อโรค ลดความดันโลหิต รักษาโรคหัวใจและระบบประสาท

ลักษณะของต้นกระเจี๊ยบ

ต้นกระเจี๊ยบ พืชล้มลุก สามารถเจริญเติบโตได้ดีในเขตอากาศกึ่งร้อน สามารถขยายพันธุ์ ได้ด้วยการเพาะเมล็ดพันธ์ ลักษณะของต้นกระเจี๊ยบ มีดังนี้

  • ลำต้นกระเจี๊ยบ ลำต้นและกิ่งมีสีม่วงแดง ความสูงประมาณ 100 เซนติเมตร เนื้อลำต้นอ่อน อวบน้ำ
  • ใบกระเจี๊ยบ ลักษณะเป็นใบเดี่ยว ลักษณะรูปฝ่ามือ มี 3 แฉก ใบเว้าลึก ขอบใบเป็นฟันเลื่อย ใบสีเขียว ใบสากมือ
  • ดอกกระเจี๊ยบ ลักษณะเป็นดอกเดี่ยว ดอกออกตามซอกใบ กลีบดอกเป็นสีชมพู กลีบเลี้ยงจะแผ่ขยายติดกัน สีแดงเข้ม กลีบเลี้ยงหักง่าย เมื่อดอกบานเต็มที่ เส้นผ่านศูนย์กลางจะประมาณ 6 เซนติเมตร
  • ผลกระเจี๊ยบ ลักษณะเป็นผลรีปลายแหลม ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีแดง และจะปลายดอกจะแตกเป็นแฉกๆ ภายในผลมีเมล็ดสีน้ำตาล กลีบผลหนาสีแดงฉ่ำน้ำ

คุณค่าทางโภชนาการของกระเจี๊ยบ

สำหรับการบริโภคกระเจี๊ยบ นิยมรับประทานผลกระเจี๊ยบ นักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางโภขนาการของกระเจี๊ยบ มีดังนี้

คุณค่าทางโภชนาการของผลกระเจี๊ยบแดง ขนาด 100 กรัม ให้พลังงานมากถึง 49 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 11.31 กรัม ไขมัน 0.64 กรัม โปรตีน 0.96 กรัม วิตามินเอ 14 ไมโครกรัม วิตามินบี1 0.011 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.028 มิลลิกรัม วิตามินบี3 0.31 มิลลิกรัม วิตามินซี 12 มิลลิกรัม ธาตุแคลเซียม 215 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 1.48 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 51 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 37 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 208 มิลลิกรัม และ ธาตุโซเดียม 6 มิลลิกรัม

สรรพคุณของกระเจี๊ยบ

กระเจี๊ยบ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค ได้หลายส่วน ทั้ง ผล เมล็ด ดอก ใบ และ น้ำคั้นจากดอกกระเจี๊ยบ สรรพคุณของกระเจี๊ยบ มีดังนี้

  • ผลกระเจี๊ยบ สรรพคุณช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยลดน้ำหนัก ลดคอเลสเตอรัล รักษาโรคหัวใจและโรคประสาท แก้กระหายน้ำ ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ช่วยขับพยาธิตัวจี๊ด
  • เมล็ดกระเจี๊ยบ สรรพคุณช่วยบำรุงโลหิต ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยลดน้ำหนัก ลดคอเลสเตอรัล บำรุงกำลัง รักษาโรคหัวใจและโรคประสาท ช่วยย่อยอาหาร เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยขับปัสสาวะ
  • น้ำกระเจี๊ยบ สรรพคุณช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยลดน้ำหนัก ลดคอเลสเตอรัล บำรุงกำลัง ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยรักษาโรคเส้นเลือดแข็งเปราะ รักษาโรคหัวใจและโรคประสาท แก้กระหายน้ำ แก้ร้อนใน ช่วยลดไข้ ช่วยแก้ไอ รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยย่อยอาหาร เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยขับปัสสาวะ
  • ดอกกระเจี๊ยบ สรรพคุณช่วบลดไขมันในเส้นเลือด รักษาโรคหัวใจและโรคประสาท ช่วยแก้ไอ ช่วยขับเสมหะ
  • ใบกระเจี๊ยบ สรรพคุณบำรุงกำลัง รักษาโรคหัวใจและโรคประสาท ช่วยขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยขับพยาธิตัวจี๊ด ช่วยขับปัสสาวะ ใช้ล้างแผล

โทษของกระเจี๊ยบ

สำหรับข้อควรระวังในการบริโภค และ ใช้ประโยชน์จากกระเจี๊ยบ ด้านการรักษาโรคและการบำรุงร่างกาย มีดังนี้

  • กระเจี๊ยบ สรรพคุณเป็นยาระบาย การกินกระเจี๊ยบมากเกินไปทำให้ท้องเสียได้ สำหรับผู้ป่วยที่พึ่งพักฟื้นจากอาการท้องเสีย ไม่ควรกินกระเจี๊ยบ
  • น้ำกระเจี๊ยบที่ปรุงรสด้วยน้ำตาล อาจมีความหวานมากเกินไป ผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ควรกินน้ำกระเจี๊ยบที่หวาน
  • กระเจี๊ยบสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดการบริโภคกระเจี๊ยบ เพื่อลดความเสี่ยงระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ

Fongza.com เว็บไซต์ที่ทำเนื้อหาเกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านสุขภาพ โดยเราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีต้องดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เนื้อหาของเราจึงประกอบด้วย โรคต่างๆ การรักษาโรค สมุนไพร การเลี้ยงลูก แม่และเด็ก การออกกำลังกาย ความสวยความงาม โหงวเฮ้ง และ อาหารสุขภาพ โดยเน้นการให้ความรู้ ไม่ได้มีเจตนาให้คำวินิจฉัยการรักษาโรค การที่ท่านนำเนื้อหาของเราไปใช้ประโยชน์ให้ปรึกษาผู้เชียวชาญก่อน หากป่วยให้เข้ารับการรักษากับแพทย์เท่านั้น

ขอบคุณท่านผู้สนับสนุนการทำเนื้อหา ทรัพทย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบ ถุงกระสอบสำหรับงานขนย้ายต่างๆ ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก ถุงราคาถูกที่ใครๆก็จับต้องได้

ถุงกระสอบ ถุงล้อลาก ถุงสายรุ้ง ถุงการ์ตูน
ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove

สมุนไพรน่ารู้

คนทั่วไปมักเข้าใจว่าสมุนไพร คือ พืชที่สามารถนำมาทำเป็นยาเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว สมุนไพรนั้นหมายรวมถึง สัตว์ หรือ แร่ธาตุจากธรรมชาติด้วย เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่สามารถใช้รักษาโรคและบำรุงร่างกาย เพื่อประโยชน์กับทุกคน
ดอกคำฝอย สมุนไพร สรรพคุณของคำฝอย
ดอกคำฝอย
ว่านชักมดลูก สมุนไพร
ว่านชักมดลูก
โด่ไม่รู้ล้ม สมุนไพร สรรพคุณของโด่ไม่รู้ล้ม
ว่านโด่ไม่รู้ล้ม
หมามุ่ย สมุนไพร สรรพคุณหมามุ่ย
หมามุ่ย