ดีปลี ( Long pepper ) สมุนไพรสรรพคุณหลากหลาย ลักษณะของต้นดีปลีเป็นอย่างไร คุณค่าทางโภชนาการ สรรพคุณของดีปลี เช่น ช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ โทษของดีปลี มีอะไรบ้างดีปลี สมุนไพร สรรพคุณของดีปลี

ดีปลี ( Long pepper ) สมุนไพรโบราณ แหล่งผลิตดีปลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ประเทศอินโดนีเซียและประเทศมาเลเซีย ซึ่งประเทศไทยมีการปลูกดีปลีทางภาคใต้และภาคเหนือ ดีปลีนิยมนำผลมาทำเครื่องเทศ สรรพคุณช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ

ต้นดีปลี ( Long pepper ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของดีปลี คือ Piper retrofractum Vahl พืชตระกลูพริกไทย ชื่อเรียกอื่นๆของดีปลี เช่น ดีปลีเชือก ( ภาคใต้ ) ปานนุ ( ภาคกลาง ) ประดงข้อ (ภาคกลาง) พิษพญาไฟ ปีกผัวะ เป็นต้น

ลักษณะของต้นดีปลี

ถิ่นกำเนิดของต้นดีปลีอยู่ที่เกาะโมลัคคาส ( Moluccas ) ที่มหาสมุทรอินเดีย เป็นไม้เถา เจริญเติบโตได้ดีในที่ชุ่มชื้น ชอบแสงแดดรำไร ลักษณะของต้นดีปลี มีดังนี้

  • ลำต้นดีปลี ลักษณะเป็นเถา มีรากฝอยบริเวณข้อของลำต้น เพื่อยึดเกาะตามไม้ใหญ่ เถาดีปลีค่อนข้างเหนียว มีข้อนูน แตกกิ่งก้านสาขามาก
  • ใบดีปลี ลักษณะเป็นใบเดี่ยว คล้ายไข่แกมขอบขนาน ใบสีเขียวเข้ม ลักษณะใบเป็นมัน ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ
  • ดอกดีปลี หรือ ผลดีปลี ลักษณะยาว ผลอัดกันแน่นเป็นช่อทรงกระบอก โคนใหญ่กว่าปลายไม่มาก ปลายผลดีปลีเล็กมน ผลดีปลีสดสีเขียว ผลสุกสีแดง ผิวของผลค่อนข้างหยาบ มีกลิ่นหอม รสเผ็ดร้อน

สรรพคุณของดีปลี

การใช้ประโยชน์จากดีปลีด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค สามารถใช้ได้หลายส่วน จากข้อมูลทางเภสัชวิทยาของดีปลี
พบว่าดีปลี มีฤทธิ์ต้านเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยให้นอนหลับ ลดไขมันในเส้นเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด การใช้ประโยชน์จากดีปลี ใช้ ผล ใบ ราก ดอก และ ผล สรรพคุณของดีปลี มีดังนี้

  • ผลดีปลี สรรพคุณแก้พิษงู ช่วยขับเสมหะ แก้ไอ ลดไข้ แก้ปวดฟัน รักษาอัมพฤกษ์ รักษาอัมพาต แก้อาการปวดเมื่อยตามเส้นเอ็น แก้ท้องร่วง ช่วยขับลม แก้จุกเสียดแน่นท้อง แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้คลื่นไส้อาเจียน แก้หอบหืด รักษาริดสีดวง แก้อาการวิงเวียนศีรษะ เป็นยาขับระดู
  • รากดีปลี สรรพคุณช่วยลดไข้ รักษาอัมพฤกษ์ รักษาอัมพาต แก้ท้องร่วง แก้อาการจุกเสียด รักษาลำไส้อักเสบ ช่วยขับแก๊สในในกระเพาะอาหาร
  • เถาดีปลี สรรพคุณช่วยขับเสมหะ แก้ปวดฟัน แก้อาการปวดท้อง ช่วยขับลม แก้จุกเสียด แก้อืดเฟ้อ รักษาท้องร่วง รักษาแผลฟกช้ำ แก้ปวดเมื่อยตามตัว ช่วยขับปัสสาวะ
  • ใบดีปลี สรรพคุณแก้ไอ แก้อาการปวดเมื่อย แก้ปวดเส้นเอ็น
  • ดอกดีปลี สรรพคุณแก้คลื่นไส้อาเจียน แก้เวียนหัว ช่วยขับลม แก้ท้องเสีย แก้ปวดท้อง รักษาโรคหืดหอบ ช่วยขับเสมหะ แก้อาการไอ รักษาโรคหลอดลมอักเสบ รักษาโรคริดสีดวงทวาร

โทษของดีปลี

สำหรับการใช้ประโยชน์จากดีปลี ด้านสมุนไพร มีข้อควรระวังในการรับประทานดีปลี ดังนี้

  • การรับประทานดีปลีมากเกินไป จะทำให้กระเพาะอาหารอักเสบได้ หรือ แสบทวารหนักต้อนขับถ่าย เพราะ ดีปลีมีรสเผ็ดร้อน
  • การกินดีปลีทำให้ร่างกายร้อน สำหรับผู้ป่วยที่มีไข้ ไม่ควรรับประทานดีปลี เพราะ จะทำให้ไข้สูงขึ้น
  • สตรีมีตั้งครรภ์ ห้ามรับประทานดีปลี อาจจะทำให้แท้งบุตรได้ เพราะทำให้ความร้อนในร่างกายสูง เป็นอันตรายต่อบุตรในท้อง

Fongza.com เว็บไซต์ที่ทำเนื้อหาเกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านสุขภาพ โดยเราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีต้องดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เนื้อหาของเราจึงประกอบด้วย โรคต่างๆ การรักษาโรค สมุนไพร การเลี้ยงลูก แม่และเด็ก การออกกำลังกาย ความสวยความงาม โหงวเฮ้ง และ อาหารสุขภาพ โดยเน้นการให้ความรู้ ไม่ได้มีเจตนาให้คำวินิจฉัยการรักษาโรค การที่ท่านนำเนื้อหาของเราไปใช้ประโยชน์ให้ปรึกษาผู้เชียวชาญก่อน หากป่วยให้เข้ารับการรักษากับแพทย์เท่านั้น

ขอบคุณท่านผู้สนับสนุนการทำเนื้อหา ทรัพทย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบ ถุงกระสอบสำหรับงานขนย้ายต่างๆ ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก ถุงราคาถูกที่ใครๆก็จับต้องได้

พริกขี้หนู ผลพริกขี้หนูนิยมนำมาทำอาหารให้รสเผ็ด ต้นพริกขี้หนูเป็นอย่างไร สรรพคุณของพริกขี้หนู เช่น แก้หวัด แก้อาเจียน ต้านเชื้อโรค โทษของพริกขี้หนู มีอะไรบ้างพริก สมุนไพร พืชสวนครัว สรรพคุณของพริก

ต้นพริกขี้หนู ( Chili pepper ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของพริกขี้หนู คือ Capsicum annuum L. ชื่อเรียกอื่นๆของพริกขี้หนู คือ พริกแด้ พริกแต้ พริกนก พริกแจว พริกน้ำเมี่ยง หมักเพ็ด พริกชี้ฟ้า ดีปลีขี้นก พริกขี้นก พริกมะต่อม ปะแกว มะระตี้ ครี ลัวเจียะ ล่าเจียว  มือซาซีซู มือส่าโพ เป็นต้น ต้นพริกขี้หนู เป็นพืชตระกลูมะเขือ มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกาเขตร้อน สำหรับประเทศไทย พบได้ทั่วประเทศ

ลักษณะของต้นพริกขี้หนู

ต้นพริกขี้หนู เป็นไม้ล้มลุก อายุประมาณ 1-3 ปี เจริญเติบโตได้ดี กับดินร่วนปนเหนียว ดินร่วนระบายน้ำดี ไม่ทนทานต่อสภาพน้ำขัง สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดพันธ์ ลักษณะของต้นพริกขี้หนู มีดังนี้

  • ลำต้นพริกขี้หนู เป็นลักษณะไม้พุ่ม ขนาดเล็กความสูงประมาณ 1 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขามากทาย โดยกิ่งอ่อนมีสีเขียว และกิ่งแก่จะมีสีน้ำตาล
  • ใบพริกขี้หนู ลักษณะเป็นใบเดี่ยว ทรงรีปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ สีเขียว ใบมันวาว
  • ดอกพริกขี้หนู ลักษณะเป็นช่อ ออกตามซอกใบ เป็นกระจุกๆ กลีบดอกเป็นสีขาว
  • ผลพริกขี้หนู เจริญเติบโตจากดอกพริกขี้หนู ผลมีลักษณะยาว ปลายผลแหลม ผลสดสีเขียว ผลสุกเป็นสีแดง ภายในผลมีเมล็ดจำนวนมาก

คุณค่าทางโภชนาการของพริกขี้หนู

สำหรับพริกขี้หนู มีคุณค่าทางโภชนาการสูง สำหรับยอดและใบอ่อนของพริกขี้หนู มีสารอาหาร เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ และวิตามินบี แต่การบริโภคพริกนิยมบริโภคผลพริก เพื่อให้รสเผ็ด เป็นหลัก นักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของผลพริกขี้หนู มีรายละเอียด ดังนี้

คุณค่าทางโภชนาการของพริกขี้หนู ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 76 กิโลแคลอรี โดยมาสารอาหารสำคัญ ประกอบด้วย น้ำ 82 กรัม โปรตีน 3.4 กรัม ไขมัน 1.4 กรัม คาร์โบไฮเดรต 12.4 กรัม กากใยอาหาร 5.2 กรัม วิตามินเอ 2,417 หน่วยสากล วิตามินบี1 0.29 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.11 มิลลิกรัม วิตามินบี3 1.5 มิลลิกรัม วิตามินซี 44 มิลลิกรัม แคลเซียม 4 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 1.2 มิลลิกรัม และ ฟอสฟอรัส 14 มิลลิกรัม

สรรพคุณของพริกขี้หนู

สำหรับการใช้ประโยชน์จากพริกขี้หนู ด้านการบำรุงร่างกายและการรักษาโรค สามารถใช้ประโยชน์จาก ผล ใบ ราก และ ลำต้น โดย สรรพคุณของพริกขี้หนู มีดังนี้

  • ผลพริกขี้หนู สรรพคุณช่วยเจริญอาหาร บำรุงร่างกาย รักษาโรคลำไส้ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยลดความดัน บำรุงเลือด บำรุงสมอง ทำให้สดชื่น บรรเทาอาการปวด แก้ไข้หวัด ลดน้ำมูก บรรเทาอาการไอ ช่วยขับเสมหะ ช่วยรักษาอาการอาเจียน แก้อาการเจ็บคอ รักษาอาการเสียงแหบ ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับน้ำคาวปลาของสตรี รักษากลาก รักษาเกลื่อน ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้อาการบวม แก้ปวดตามข้อ
  • ใบพริกขี้หนู สรรพคุณช่วยเจริญอาหาร ช่วยกระตุ้นน้ำลาย ช่วยขับลม แก้ปวดหัว ช่วยแก้หวัด แก้อาการคัน รักษาแผลสด รักษาแผลเปื่ิอย
  • ลำต้นพริกขี้หนู สรรพคุณแก้กระษัย ช่วยขับปัสสาวะ
  • รากพริกขี้หนู สรรพคุณช่วยฟอกเลือด

โทษของพริกขี้หนู

สำหรับการใช้ประโยชน์จากพริกขี้หนู ต้องมีข้อควรระวังในการใช้ประโยชน์ โดยโทษของพริกขี้หนู มีดังนี้

  • พริกขี้หนูมีฤทธิ์ทำให้เกิดอาการแสบ ระคายเคืองที่ผิวหนัง สำหรับผู้ป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น มีโรคที่กระเพาะอาหารหรือลำไส้อักเสบ ไม่ควรรับประทานพริกขี้หนู
  • การรับประทานพริกขี้หนูมากเกินไป จะทำให้เกิดอาการแสบท้อง ทำให้เป็นสิว ทำให้ผิวหนังเกิดอาการแสบร้อนได้
  • การสัมผัสผลพริกที่แตกหรือน้ำจากผลพริก จะทำให้เกิดการระคายเคืองผิวอย่างรุนแรง หากเข้าตาจะแสบมาก

พริกขี้หนู คือ พืชพื้บ้าน ผลพริกขี้หนู นิยมนำมาทำอาหาร ให้รสเผ็ด ลักษณะของต้นพริกขี้หนู เป็นอย่างไร สรรพคุณของพริกขี้หนู เช่น แก้หวัด แก้อาเจียน ต้านเชื้อโรค โทษของพริกขี้หนู มีอะไรบ้าง

Fongza.com เว็บไซต์ที่ทำเนื้อหาเกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านสุขภาพ โดยเราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีต้องดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เนื้อหาของเราจึงประกอบด้วย โรคต่างๆ การรักษาโรค สมุนไพร การเลี้ยงลูก แม่และเด็ก การออกกำลังกาย ความสวยความงาม โหงวเฮ้ง และ อาหารสุขภาพ โดยเน้นการให้ความรู้ ไม่ได้มีเจตนาให้คำวินิจฉัยการรักษาโรค การที่ท่านนำเนื้อหาของเราไปใช้ประโยชน์ให้ปรึกษาผู้เชียวชาญก่อน หากป่วยให้เข้ารับการรักษากับแพทย์เท่านั้น

ขอบคุณท่านผู้สนับสนุนการทำเนื้อหา ทรัพทย์ทวี จำหน่ายถุงกระสอบ ถุงกระสอบสำหรับงานขนย้ายต่างๆ ถุงสายรุ้ง ถุงไนลอน ถุงการ์ตูน และ ถุงล้อลาก ถุงราคาถูกที่ใครๆก็จับต้องได้

ถุงกระสอบ ถุงล้อลาก ถุงสายรุ้ง ถุงการ์ตูน
ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove

สมุนไพรน่ารู้

คนทั่วไปมักเข้าใจว่าสมุนไพร คือ พืชที่สามารถนำมาทำเป็นยาเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว สมุนไพรนั้นหมายรวมถึง สัตว์ หรือ แร่ธาตุจากธรรมชาติด้วย เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่สามารถใช้รักษาโรคและบำรุงร่างกาย เพื่อประโยชน์กับทุกคน
ดอกคำฝอย สมุนไพร สรรพคุณของคำฝอย
ดอกคำฝอย
ว่านชักมดลูก สมุนไพร
ว่านชักมดลูก
โด่ไม่รู้ล้ม สมุนไพร สรรพคุณของโด่ไม่รู้ล้ม
ว่านโด่ไม่รู้ล้ม
หมามุ่ย สมุนไพร สรรพคุณหมามุ่ย
หมามุ่ย