ผักกระเฉด นิยมนำมารับประทานเป็นอาหาร วิตามินและแร่ธาตุสูง สมุนไพร สรรพคุณของผักกระเฉด บำรุงสายตา ช่วยขับสารพิษตกค้างในร่างกาย แก้ปวดเมื้อย ป้องกันโรคท้องผูกผักกระเฉด ผักสวนครัว สมุนไพร สรรพคุณของผักกระเฉด

ผักกระเฉด ( Water mimosa ) ชื่อวิทยาศาสตร์ของผักกระเฉด คือ Neptunia oleracea Lour. สำหรับชื่อเรียกตามท้องถิ่นของผักกระเฉด เช่น ผักรู้นอน ผักกระเสดน้ำ ผักหนอง ผักหละหนอง ผักฉีด เป็นต้น พืชที่เกิดตามผิวน้ำ ลำต้นเป็นปล้อง ใบคล้ายใบต้นกระถิน โดยในเวลากลางคืน ใบจะสามารถหุบได้ มีลำต้นลอยน้ำสีขาว เรียกว่านมผัก ผยุงให้ลอยน้ำได้ มีรากงอกออกมา เรียกหนวด มีดอกขนาดเล็กสีเลือง มีผักภายในมีเมล็ด ประมาณ 10 เมล็ด

ประโยชน์ของผักกระเฉด นิยมใช้ในการประกอบอาหารโดยเฉพาะประเภทยำ เนื่องจากเป็นการเพิ่มสีสรร สร้างเนื้อสัมผัสกรอบ กลิ่นหอม เมนูที่นิยม ได้แก่ ผักกระเฉดทอดไข่สามรส ยำวุ้นเส้นผักกระเฉด  ผักกระเฉดผัดน้ำมันหอย  แกงส้มผักกระเฉดปลาช่อนทอด เส้นหมี่ผัดกระเฉดกุ้ง  ผัดหมี่กระเฉดผัดผักกระเฉดไฟแดง เป็นต้น

เคล็ดลับความอร่อยของผักกระเฉด การใช้ผักกระเฉดประกอบอาหาร มีเคล็ดลับ คือ เลือกซื้อผักกระเฉดที่มียอดอ่อน เนื่องจากหากแก่มากไปจะเหนียวและเหม็ยเขียวได้ ยอดอ่อนจะมีความกรอบและอร่อยมากกว่าผักกระเฉดแก่มาก นิยมนำมาต้มก่อนนำไปประกอบอาหาร โดยควรใส่เกลือลงไปในน้ำเล็กน้อย ไม่ควรลวกนานเกินไป เพราะจะทำให้ผักกระเฉดเหนียวไม่อร่อย เมื่อลวกแล้วใส่ลงไปในน้ำเย็นทันที อาจจะใช้น้ำแข็งช่วยโปะ ทำให้ผักกระเฉดกรอบ นุ่มคงรสชาติอร่อยได้ดี

ผักกระเฉดในประเทศไทย

ผักกระเฉด จัดเป็นพืชเศรษฐกิจ สามารถหาซื้อได้ตามตลาดทั่วในในประเทศไทย อาหารไทยมีการนำเอาผักกระเฉดมาปรุงอาหารหลายชนิด เช่น ยำผักกระเฉด แกงส้ม ผัดผักกระเฉด ซึ่งพื้นที่สำหรับปลูกผักกระเฉดมากที่สุดของประเทศไทย คือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีเนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่  และ เนื้อที่ปลูกผักกระเฉดทั้งจังหวัดสมุทรปราการมี 2,500 ไร่

ลักษณะของผักกระเฉด

ผักกระเฉด เป็นพืชล้มลุก พืชน้ำ สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี เจริญเติบโตได้ดีในแหล่งน้ำขัง ผักกระเฉดไม่สามารถปลูกในดินที่ไม่มีน้ำขังได้ ผักกระเฉด ไวต่อแสง จะแทงยอดมากในช่วงฤดูร้อน เดือนมีนาคม ถึง พฤษภาคม ของทุกปี ลักษณะของผักกระเฉด มีดังนี้

  • ลำต้นของผักกระเฉด ลักษณะลำต้นเลื้อยยาวลอยบนน้ำ ลำต้นกลม เป็นปล้อง สีเขียว ภายในลำตันไม่เป็นรูกลวง มีนวมสีขาวหุ้มลำต้นให้ลอยน้ำ นวมสีขาว เรียก นม
  • รากของผักกระเฉด เป็นรากฝอยออกรากตามปล้องของลำต้น
  • ใบผักกระเฉด ลักษณะเป็นใบประกอบ สีเขียว ใบเรียงสลับกันตามปลายยอดของผักกระเฉด ใบจะรีเป็นรูปไข่ ขนาดเล็ก ยาวใบอ่อนมีสีเขียว
  • ดอกผักกระเฉด ลักษณะดอกออกเป็นช่อ ดอกมีสีเหลือง คล้ายดอกกระถิน ดอกออกตามปลายยอดของผักกระเฉด
  • ผลของผักกระเฉด ลักษณะเป็นฝัก ขนาดเล็ก ฝักแบนยาว ภายในฝักมีเมล็ด

สรรพคุณของผักกระเฉด 

ผักกระเฉดมีคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น ธาตุแคลเซียม (Ca) สูงมาก นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วย เส้นใย (Fiber) ธาตุเหล็ก (Fe) ธาตุฟอสฟอรัส (P) วิตามินเอ เบตาแคโรทีน วิตามินบี 3 วิตามินซี นอกจากนั้นยังมีสรรพคุณของผักกระเฉด มีดังนี้

  • สรรพคุณบำรุงร่างกาย และช่วยขับสารพิษที่ตับได้ดี
  • รักษาอาการปวดศีรษะ วินเวียนศีรษะ
  • ผักกระเฉดมีฤทธิ์เป็นยาเย็น ช่วยดับพิษร้อนได้ เช่น อาการไข้สูง หรือ ตัวร้อน บรรเทาอาการได้เป็นอย่างดี
  • สรรพคุณช่วยแก้พิษไข้ เมื่อรับประทานผักกระเฉดจะช่วยลดพิษได้ดี
  • บรรเทาอาการปวดตามอวัยวะต่างๆ เช่น อาการปวดฟัน อาการปวดเมื้อยตามตัว อาการปวดหลัง
  • ช่วยขับเสมหะ ลดอาการได ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น
  • ลดลมในกระเพาะ ลดอาการท้องอืด ท้องเฝ้อ
  • รักษาโรคกามโรค อาการคันในร่มผ้า
  • ลดอาการปวดแสบปวดร้อน จากแมลงสัตว์กัดต่อย
  • ใช้ถอนพิษเมื่อได้รับสารพิษ หรือเมื่อเกิดอาการเมาเมื่อได้รับสารพิษ
  • ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ระบบการมองเห็นเนื่องจากผักกระเฉดมีวิตามินเอสูง
  • บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ เพราะในผักกระเฉดมีแคลเซียมสูง
  • ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงให้เป็นปกติ และช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้ดี เนื่องจากมีธาตุเหล็กสูง
  • สามารถช่วยป้องกันโรคท้องผูกได้ดี เนื่องจากมีไฟเบอร์หรือกากใยสูง
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคตับอักเสบเสริมสร้างภูมิต้านทาน
  • ปรับสมดุลร่างกายให้ปกติ ลดธาตุไฟลดความร้อนในร่างกาย

ข้อควรระวังการรับประทานผักกระเฉด 

ผักกระเฉด พบได้ตามแหล่งน้ำต่างๆ ทำให้อาจจะมีการเข้าไปปะปนของพยาธิ สัตว์น้ำต่างๆ เช่น ปลิงน้ำ ซึ่งไข่สามารถทนความร้อนได้มาก แม้จะทำให้สุกก่อนรับประทาน ดังนั้น ควรล้างให้สะอาด และต้มให้สุกด้วยความร้อนก่อนรับประทาน นอกจากนั้น ในแหล่งน้ำใกล้เขตการเกษตร อาจจะมีสารเคมีการเกษตรปะปนได้ การรับประทานควรแน่ใจเรื่องความสะอาด และความร้อนที่พอเพียงในการประกอบอาหาร โดยเฉพาะอาหารประเภทยำที่นิยมใส่ผักกระเฉด แต่การประกอบอาหารแค่ลวดพอสุกเท่านั้น ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอต่อสุขอนามัย

ผักกระเฉด ผักสวนครัว นิยมนำมารับประทานเป็นอาหาร มีวิตามินและแร่ธาตุสูง พืชสมุนไพรมีประโยชน์ สรรพคุณของผักกระเฉด ้เช่น บำรุงสายตา ช่วยขับสารพิษตกค้างในร่างกาย แก้ปวดเมื้อย ป้องกันโรคท้องผูก

ลูกแพร์ ผลไม้สารพัดประโยชน์ แสนอร่อย สมุนไพร อุดมณ์ไปด้วยวิตามิและสารอาหารต่างๆหลากหลาย สรรพคุณบำรุงระบบเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือดลูกแพร์ ผลไม้ สมุนไพร สรรพคุณของลูกแพร์

ลูกแพร์ ภาษาอังกฤษ เรียก European Pear ชื่อวิทยาศาสตร์ของลูกแพร์ คือ Pyrus communis เป็นพืชตระกูลกุหลาบ ลักษะผลคล้ายสาลี่ เป็นไม้ผลเมืองหนาวมีถิ่นกำเนิดในทวีฟยุโรป ปัจจุบันลูกแพร์ปลูกมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ลูกแพร์เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินบี3 วิตามินบี9 แคลเซียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม สามารถนำไปแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำลูกแพร์ ลูกแพร์แช่อิ่ม ลูกแพร์ตากแห้ง ลูกแพร์เชื่อม และ ลูกแพร์บรรจุกระป๋อง

ลักษณะของต้นแพร์

ต้นแพร์ สามารถปลูกได้ในดินทุกชนิด ชอบดินร่วนจะเติบโตได้ดี ชอบอากาศเย็น สามารถขยายพันธ์โดยการเพาะเมล็ดพันธุ์ การทาบกิ่ง การติดตา หรือการตอนกิ่ง เป็นไม้ยืนต้น อายุยาวนาน ลักษณะของต้นแพร์ มีดังนี้

  • ลำต้นแพร์ ลักษณะกลมๆ เนื้อไม้แข็งเหนียว ลำต้นมีสีน้ำตาล เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง แตกกิ่งก้านเป็นพุ่ม
  • รากแพร์ เป็นระบบรากแก้ว รากกลมๆ แทงลงในดิน มีรากแขนงและรากฝอยเล็กๆ ออกตามแนวราบ มีสีน้ำตาล
  • ใบแพร์ ลักษณะเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ใบสีเขียว ยาวรี ผิวใบเรียบ ขอบใบเรียบ มีก้านใบยาว
  • ดอกแพร์ ลักษณะดอกเป็นดอกเดี่ยว ดอกออกซอกใบและซอกกิ่ง ดอกออกเป็นกระจุก กลีบดอกสีขาว เกสรยาวสีเหลือง ก้านดอกยาว
  • ผลแพร์ ลักษณะเป็นผลเดี่ยว กลมยาว โคนเรียวเล็ก ปลายผลกลมใหญ่ ผิวเปลือกบางผิวเรียบ มีแกนกลางแข็ง ผลดิบสีเขียว ผลสุกสีเขียวอมเหลือง เนื้อผลนุ่มฉ่ำน้ำ สีขาวนวล รสหวาน มีกลิ่นหอม
  • เมล็ดแพร์ ลักษณะทรงกลมรี เมล็ดแข็ง สีน้ำตาล เมล็ดอยู่ในแกนกลางของผล

คุณค่าทางโภชนาการของลูกแพร์

การรับประทานแพร์ นิยมรับประทานผลลูกแพร์ ซึ่งนักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของลูกแพร์ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงานมากถึง 58 กิโลแคลอรี มีสารอาหารสำคัญประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 13.81 กรัม กากใยอาหาร 3.1 กรัม ไขมัน 0.12 กรัม โปรตีน 0.38 กรัม วิตามินเอ 23 หน่วยสากล วิตามินบี1 0.012 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.025 มิลลิกรัม วิตามินบี3 0.157 มิลลิกรัม วิตามินบี5 0.048 มิลลิกรัม วิตามินบี6 0.028 มิลลิกรัม วิตามินบี9 7 ไมโครกรัม วิตามินซี 13 มิลลิกรัม วิตามินอี 0.12 มิลลิกรัม วิตามินเค 4.5 ไมโครกรัม ธาตุแคลเซียม 9 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.17 มิลลิกรัม ธาตุทองแดง 0.082 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 7 มิลลิกรัม
ธาตุโพแทสเซียม 119 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 11 มิลลิกรัม ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม และ ธาตุสังกะสี 0.1 มิลลิกรัม

สรรพคุณของแพร์

แพร์ เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานในแถบประเทศเขตหนาว และยังมีสรรพคุณเป็นยา บำรุงร่างกาย และระบบต่างๆของร่างกาย มีดังนี้

  • บำรุงเลือดและบำรุงหัวใจ สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และ ลดไขมันในเส้นเลือด
  • ลดกรดยูริกในร่างกาย ป้องกันและรักษาอาการของโรคเก๊าฑ์
  • บำรุงสมอง ป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และโรคเส้นเลือดในสมองแตก ป้องกันโรคอัมพฤกษ์อัมภาต
  • ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยขับของเหลวออกจากร่างกาย บำรุงไต ลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในไต
  • บำรุงกระดูก ลดความเสี่ยงการเกิดโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุ
  • ช่วยบำรุงระบบขับถ่าย ป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคลำไส้อักเสบ เนื่องจากแพร์มีกากใยอาหารสูง ช่วยลดอาการท้องผูก
  • แก้อาการอักเสบต่างๆตามร่างกาย
  • ช่วยขับสารพิษตกค้างในร่างกาย เนื่องจากลูกแพร์มีคุณสมบัติเป็นเบส
  • แก้เจ็บคอ บำรุงเส้นเสียง ลดอาการเสียงแหบจากการใช้เสียงมาก
  • รักษาไข้ ลูกแพร์เป็นธาตุเย็น ใช้ลดอาการร้อนในร่างกาย
ถุงกระสอบ ถุงล้อลาก ถุงสายรุ้ง ถุงการ์ตูน
ขายถุงกระสอบ ถุงสายรุ้ง ย้ายหอ ย้ายบ้าน ต้องการถุงกระสอบ ถุงกระสอบราคาโรงงาน
ติดต่อ ทรัพย์ทวี Line Id : nongnlove

สมุนไพรน่ารู้

คนทั่วไปมักเข้าใจว่าสมุนไพร คือ พืชที่สามารถนำมาทำเป็นยาเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว สมุนไพรนั้นหมายรวมถึง สัตว์ หรือ แร่ธาตุจากธรรมชาติด้วย เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่สามารถใช้รักษาโรคและบำรุงร่างกาย เพื่อประโยชน์กับทุกคน
ดอกคำฝอย สมุนไพร สรรพคุณของคำฝอย
ดอกคำฝอย
ว่านชักมดลูก สมุนไพร
ว่านชักมดลูก
โด่ไม่รู้ล้ม สมุนไพร สรรพคุณของโด่ไม่รู้ล้ม
ว่านโด่ไม่รู้ล้ม
หมามุ่ย สมุนไพร สรรพคุณหมามุ่ย
หมามุ่ย